นอกจากผลงานในสนามแล้ว สิ่งที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล ลุ้นที่สุดชั่วโมงนี้น่าจะเปนเรื่องการต่อสัญญาของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

สัญญาของดาวเตะทีมชาติอียิปต์ในถิ่นแอนฟิลด์ เหลืออยู่จนถึงจบฤดูกาลหน้า และถึงเวลานี้ เขาคือนักตัวหลักของ “หงส์แดง” คนเดียวก็ว่าได้ที่ยังไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่

ซึ่งยิ่งเวลาผ่านไป แฟน ๆ “หงส์แดง” ยิ่งลุ้นหนัก เพราะถ้าวัดจากผลงานและอิทธิพลที่มีต่อทีม ซาลาห์ คือนักเตะที่สำคัญที่สุดของ ลิเวอร์พูล นาทีนี้ก็คงไม่ปิดจากความเป็นจริงนัก

ยิ่งถ้ายังเจรจากันไม่จบจนถึงช่วงซัมเมอร์ สถานการณ์จะยิ่งบีบคั้นมากขึ้นเป็นเท่าตัว…

ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าเอเย่นต์ส่วนตัวของดาวเตะทีมชาติอียิปต์ เรียกค่าเหนื่อยถึงสัปดาห์ละ 500,000 ปอนด์ ซึ่งถ้าเป็นตัวเลขที่ว่าจริง มันก็ไม่แปลกที่การเจรจาจะยืดเยื้อ แต่เท่าที่จำได้ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้มันเคยมีข่าวว่าในความเป็นจริง ฝั่ง ซาลาห์ ก็ไม่ได้เรียกร้องตัวเลขสูงขนาดนั้น และล่าสุด ตัวนักเตะก็ออกมาพูดเองว่าเขาไม่อยากย้ายออกไป เป็นไปได้ก็อยากค้าแข้งอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์จนเลิกเล่นไปเลย แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสโมสรว่าจะเอาอย่างไร

หมายความว่ามีแค่เรื่องของตัวเลขค่าเหนื่อยเท่านั้น ที่เป็นปัญหา…

“เดอะ ค็อป” หลายคนบอกว่า ซาลาห์ เรียกค่าเหนื่อยมาในระดับที่ไม่ได้สูงเกินเหตุ สโมสรก็ยอม ๆ ให้ไปเถอะ ก็เจ้าตัวฟอร์มเยี่ยมถึงขั้นที่ เจอร์เกน คลอปป์ บอกว่าถ้าวัดด้วยฟอร์มการเล่นล้วน ๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นี่คือนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ผลงานยิงมา 9 เกมติด และทำ 12 ประตูจากการลงเล่น 11 เกมในทุกรายการ (ยังไม่นับเกมแดงเดือด) มันไม่ใช่โชคช่วย

แต่เท่าที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เป็นทีมยักษ์ใหญ่ที่จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะไม่สูงมากเมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่ทีมอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกันในเวลานี้ที่นักเตะในระดับเดียวกับ ซาลาห์ อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ รับสัปดาห์ละเกือบ 400,000 ปอนด์ ไม่นับรวม คริวเตียโน โรนัลโด ที่ฟันเหนาะ ๆ ถึงสัปดาห์ละ 480,000 ปอนด์

ไม่ได้มีเจตนาดูถูกใด ๆ แต่นักเตะที่ยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันอย่าง เจดอน ซานโช, ไค ฮาร์แวร์ตซ์ หรือ ราฮีม สเตอร์ลิง ต่างรับทะลุ 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มากกว่าที่ ซาลาห์ รับอยู่ตอนนี้ทั้งสิ้น ทั้งที่ผลงานเทียบกันไม่ได้

ซึ่งอันที่จริงต้องชื่นชมบอร์ดของ ลิเวอร์พูล ที่บริหารจัดการได้อย่างยอดเยี่ยม ควบคุมรายจ่ายส่วนนี้ของทีมไม่ให้สูงเกินไป ขณะที่ผลงานของทีมยังอยู่ในข่ายลุ้นแชมป์ โดยเวลานี้ คนที่ได้ค่าเหนื่อยมากสุดในทีมก็แค่ 2 แสนต้น ๆต่อสัปดาห์ ในขณะที่ยักษ์ใหญ่ทีมอื่นล้วนใช้วิธีทุ่มค่าเหนื่อยมหาศาลให้นักเตะเกรดเอเพื่อลุ้นความสำเร็จกันทั้งนั้น

แต่คำถามคือ ลิเวอร์พูล จะรักษาแนวทางที่ว่านี้ได้นานแค่ไหน เพราะในเมื่อจ่ายไม่เท่าทีมอื่น โอกาสได้ตัว หรือรั้งนักนักเตะเกรดเอ มันก็ย่อมน้อยกว่าทีมอื่น

บางทีมันอาจถึงเวลาแล้วที่ “หงส์แดง” ต้องลงมือทลายกำแพงที่ตัวเองก่อขึ้น…

ผยองเดช