ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 7-19 ธ.ค.2568 โดยมี 3 จังหวัด ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี และสงขลา นอกจากนี้ยังเตรียม “เชียงใหม่” จัดแข่งขันฟุตบอล อีกด้วย เนื่องจากกระแสฟุตบอลฟีเวอร์ต่างจังหวัดนั้นมีมากเหลือเกิน
ศึกซีเกมส์ 2025 ครั้งนี้ “รมต.บอย” สรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายให้เป็น”กรีนซีเกมส์” ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็เตรียมจัดกิจกรรมเคาต์ดาวน์ หรือนับถอยหลัง “ซีเกมส์ ครั้งที่ 33” ในวันที่ 7 ธ.ค.67 นี้ ก่อนเริ่มการแข่งขัน 1 ปี เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศมีส่วนร่วมมากที่สุด
ซีเกมส์ 2025 กำหนดแข่งขันมากถึง 50 ชนิดกีฬา จัดชิงชัยทั้ง 569 เหรียญทอง ดังนี้ 1 กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, ระบำใต้น้ำ, โอเพน วอเตอร์) 50 เหรียญทอง,
2 กรีฑา 93 เหรียญทอง, 3 ยิงธนู 10 เหรียญทอง, 4 แบดมินตัน 7 เหรียญทอง, 5 บาสเกตบอล 4 เหรียญทอง, 6 เรือแคนู-เรือพาย 30 เหรียญทอง, 7 จักรยาน 17 เหรียญทอง, 8 ขี่ม้า 8 เหรียญทอง, 9 ฟันดาบ 12 เหรียญทอง, 10 ฟุตบอล-ฟุตซอล 4 เหรียญทอง
11 กอล์ฟ 4 เหรียญทอง, 12 ยิมนาสติก 16 เหรียญทอง, 13 แฮนด์บอล 2 เหรียญทอง,
14 ฮอกกี้ 6 เหรียญทอง, 15 ยูโด 12 เหรียญทอง, 16 รักบี้ 2 เหรียญทอง, 17 เรือใบ 13 เหรียญทอง, 18 ยิงปืน 30 เหรียญทอง, 19 เทเบิลเทนนิส 7 เหรียญทอง, 20 เทควันโด (ต่อสู้-ท่ารำ) 20 เหรียญทอง
21 เทนนิส 7 เหรียญทอง, 22 ไตรกีฬา 11 เหรียญทอง, 23 วอลเลย์บอล (ในร่ม-ชายหาด) 4 เหรียญทอง, 24 มวยปล้ำ 12 เหรียญทอง, 25 สเก็ตน้ำแข็ง 9 เหรียญทอง, 26 ฮอกกี้น้ำแข็ง 2 เหรียญทอง, 27 ปัญจกีฬา 6 เหรียญทอง, 28 ยกน้ำหนัก 14 เหรียญทอง, 29 เบสต์บอล-ซอฟต์บอล 4 เหรียญทอง, 30 บิลเลียด-สนุกเกอร์ 10 เหรียญทอง
31 มวยสากลสมัครเล่น 17 เหรียญทอง, 32 ฟลอร์บอล 2 เหรียญทอง, 33 อีสปอร์ต 6 เหรียญทอง, 34 มวยไทย 18 เหรียญทอง, 35 เนตบอล 1 เหรียญทอง, 36 ปันจักสีลัต 13 เหรียญทอง, 37 เปตอง 11 เหรียญทอง, 38 เซปักตะกร้อ 11 เหรียญทอง, 39 สควอช 4 เหรียญทอง, 40 โบว์ลิ่ง 6 เหรียญทอง
41 กีฬาเอ็กซ์ตรีม (ปีนหน้าผา, สกีน้ำ-เวคบอร์ด, สเก็ตบอร์ด, เจ็ตสกี) 20 เหรียญทอง, 42 คาราเต้ 15 เหรียญทอง, 43 ยูยิตสู 18 เหรียญทอง, 44 คริกเก็ต 4 เหรียญทอง, 45 วูซู 14 เหรียญทอง, 46 กาบัดดี้ 6 เหรียญทอง, 47 เทคบอล 5 เหรียญทอง, 48 คิกบ็อกซิ่ง 8 เหรียญทอง, 49 วู้ดบอล 6 เหรียญทอง และ 50 หมากรุก 8 เหรียญทอง
จำนวนชนิดกีฬาที่จะมีการชิงชัยมากถึง 569 เหรียญทองแล้ว ก็อาจจะมองได้ว่ามโหฬารจริงๆ แต่ถ้าพิจารณาถึงอีเวนต์ทั้ง 569 รายการแล้ว ก็ต้องบอกว่าอยู่ในมาตรฐานสากล ถือว่าไม่มีกีฬาพื้นบ้านมากจนเกินไป
เป้าหมายของการเป็นเจ้าภาพ แน่นอนว่าย่อมอยู่ที่การครองเจ้าเหรียญทอง แต่กีฬาก็คือกีฬา มีแพ้ มีชนะ เจ้าภาพอาจจะได้เปรียบคู่แข่งในทุกๆ ประตู
แต่สิ่งหนึ่งที่พึงต้องทำก็คือการสร้างความประทับใจให้กับมิตรประเทศ ยิ่งทำได้มากเท่าใด ยิ่งเป็นผลดีต่อชื่อเสียงและเกียรติยศของประเทศไทยและคนไทยมากเท่านั้น
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือคุณภาพของเกมการแข่งขันและการตัดสินของกรรมการในทุกชนิดกีฬา ที่จะต้องบริสุทธิ์และยุติธรรม อย่าให้เขาตราหน้าเราได้ว่า….ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง!!!