เมื่อวันที่ 28 ต.ค.67 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เวลา 17.40 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มท. เป็นประธานพิธีประกาศผลและมอบรางวัลการประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ประจำปี 2567 “New Gen Young Designer 2024” รอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ ณ สุราลัยฮอล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โดยรางวัลชนะเลิศ เป็นของ “นายรุจ กล้ำศรี” จากกรุงเทพมหานคร ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท พร้อมจักรเย็บผ้า และ iPad จำนวน 1 เครื่อง โดยจะเข้ารับพระราชทานเหรียญรางวัลจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในโอกาสต่อไป

นายอนุทิน กล่าวว่า โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกนี้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ท่านได้ทรงทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้สินค้าที่ออกแบบโดยคนไทย หรือ ‘ผ้าไทย’ ได้ถูกประทับตราไว้ว่า “เราไม่เป็นที่สองรองใคร” ซึ่งทุกครั้งที่ตนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท จะไม่ทรงรับสั่งเรื่องอื่นใดนอกจากเรื่อง “ผ้าไทย”  เพราะพระองค์ท่านทรงฝากความหวังไว้กับพวกเราทุกคนในการที่จะจรรโลงรักษา สืบทอด ต่อยอด ให้ผ้าไทยซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทยเป็นที่แพร่หลายไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่พระองค์ท่านทรงฝากความหวังไว้ว่า “จะต้องทำผ้าไทยของเราเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก” กระทรวงมหาดไทยจึงได้น้อมนำพระดำริและพระดำรัส มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ

“คำว่า “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตนได้รับพระราชทานคำอรรถาธิบายจากพระองค์ท่านว่า ไม่ใช่ชุดผ้าไทยแบบคอตั้งแขนยาวใส่แล้วร้อน แต่ผ้าไทย คือ ผ้าที่ทำจากผ้าคนไทย วัตถุดิบไทย ดีไซเนอร์ไทย จะใส่เป็นเสื้อเชิ้ตก็ได้ ชุดซาฟารีก็ได้ เสื้อแจ็กเกตก็ได้ กระโปรงแบบญี่ปุ่นก็ได้ ออกเป็นเสื้อใส่ตามสบายก็ได้ แต่ขอให้เป็นผ้าไทย จนทำให้ตนเข้าใจแล้วว่า ผ้าไทยนั้นมีเอกลักษณ์ คือ วัสดุที่ผลิตขึ้นมาเป็นของไทย ดังนั้น พวกเราทุกคนถือว่าเป็นข้าทูลละอองพระบาทของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และเรามีเจ้านายที่ทรงทุ่มเทในเรื่องของผ้าไทยให้กับพวกเรา จึงเป็นความภาคภูมิใจและเป็นวาสนาอย่างยิ่งที่เราได้มีโอกาสรับสนองพระดำริพระองค์ท่าน ดังที่นายแบบและนางแบบทั้งหลายที่ได้สวมใส่ผ้าไทยจากการออกแบบโดยคนไทยมาเดินแบบในที่นี้ ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของผ้าไทย รูปแบบการออกแบบตัดเย็บของดีไซเนอร์ไทยมีความสวยงามจริง ๆ

ผมอมยิ้มอยู่ในใจและภาคภูมิใจอยู่ในใจว่า เราใส่ผ้าแบรนด์หรูต่างประเทศมาเยอะแล้ว วันนี้เราเห็นคนต่างชาติที่เป็นนางแบบ นายแบบ มาใส่เสื้อผ้าไทยของเรา ดีไซน์ของเรา ดูแล้วไม่เห็นว่า ผ้าไทยสวยกว่าด้วยซ้ำ เข้ากับประเทศเมืองร้อนอย่างเรา ออกแบบดีไซน์มาอย่างมีสีสันตระการตา จึงอยากให้พวกเราทุกคนโดยเฉพาะลูก ๆ หลาน ๆ ได้มีความภาคภูมิใจ ไม่มีชุดไหนไม่สวยเลย สวยทุกชุด ดังนั้นเราต้องภูมิใจที่เราได้แสดงเอกลักษณ์ของประเทศไทยให้ต่างชาติได้ชื่นชม”นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า  ขอแสดงความชื่นชมบรรดานักออกแบบ ช่างตัดเย็บ ที่ตัดเสื้อผ้าให้มีความงดงามอย่างยิ่ง ตลอดถึงอาจารย์ที่ปรึกษา คณะกรรมการ แม้กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทยทั้งในปัจจุบันและในอดีต ที่ได้ทุ่มเทเสียสละและทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น ซึ่งตนมั่นใจว่าเราจะสามารถทำให้ผ้าไทยของเราเป็นที่ยอมรับในทั่วโลกในระยะเวลาอีกไม่นานนี้ และตนขอมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการใช้ผ้าไทยของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ด้วยการใส่ผ้าไทย ใช้ผ้าไทย ให้ชาวบ้านของพวกเรามีรายได้ ให้เอกลักษณ์ของประเทศเราได้รับการยอมรับ ให้สินค้าของประเทศไทยของเราโดยเฉพาะ “ผ้าไทย” ได้ส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศและประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเราจะยกระดับให้เพิ่มมากขึ้นด้วยความร่วมไม้ร่วมมือ น้อมนำพระปณิธานสู่การขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ ทำให้มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ใส่ใจ ใส่ฝีมือ ใส่สิ่งที่ดีที่สุดในเซลล์ของเรา ในเลือดของเรา เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีงาม เกิดเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคง พี่น้องประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน


ในการประกวดครั้งนี้มีผู้บริหารระดับสูงของ มท. และสมาคมแม่บ้าน มท. อาทิ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ – ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน รวมถึงคณะที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คณะกรรมการการตัดสินการประกวดฯ ระดับประเทศ คณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และอุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ตลอดจนดีไซเนอร์รุ่นใหม่จากทั่วประเทศ และสื่อมวลชน ร่วมในงานจำนวนมาก.