นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) ร่วมกับ มูลนิธิกาญจนบารมี จัดพิธีเปิดหน่วยบริการคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม โดยรถตรวจเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สอดคล้องตามนโยบายของ กทท. ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิต และสุขภาพที่ดีของประชาชน อันเป็นการสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงบริการด้านการแพทย์ และสาธารณสุข โดยจะเปิดบริการหน่วยคัดกรองฯ ระหว่างวันที่ 28 – 29 ต.ค.67 เวลา 08.30 – 16.00 น. ที่อาคาร PAT ARENA กทท.

นางมนพร กล่าวต่อว่า มะเร็งเต้านม ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของสตรีไทย และสตรีทั่วโลก ตามข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า หญิงไทยป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมประมาณ 22,000 คนต่อปี อัตราเสียชีวิต 13 คนต่อวัน และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมฯ ที่จัดขึ้นครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ผู้หญิงไทยตระหนักถึงความสำคัญของโรคมะเร็งเต้านม และเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ทันสมัย ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ 90% ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสตรี และครอบครัว

ด้านนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 28 ก.ค.67 โดย 1 ใน 5 โครงการเฉลิมพระเกียรติของ กทท. คือ การเปิดหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม โดยรถตรวจเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูงที่สนับสนุน โดยเมื่อปี 64 ในวาระครบรอบ 70 ปี กทท. ได้สนับสนุนเงิน 33,000,000 บาท ให้แก่มูลนิธิกาญจนบารมี สำหรับจัดหารถตรวจเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูง (Mammogram) พร้อมอุปกรณ์ 1 คัน เพื่อบริการสตรีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีการตรวจคัดกรองผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงไปแล้ว 1,200,000 ราย พบเป็นมะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรกกว่า 4,000 ราย และสามารถรักษาได้ทันท่วงที

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในปี 67 กทท. ยังได้มอบเงินสนับสนุนโครงการจัดหารถหน่วยคัดกรองมะเร็งนรีเวช (อวัยวะสืบพันธุ์) จำนวน 36,720,400 บาท ให้แก่มูลนิธิฯ เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งนรีเวชให้แก่สตรีที่อยู่ห่างไกลและด้อยโอกาส กทท. หวังว่าการสนับสนุนรถตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และมะเร็งนรีเวช จะสามารถเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตให้แก่สตรีไทยอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม.