จากกรณี “คดีตากใบ” หมดอายุความโดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามตัวจำเลย 14 คนในคดีนี้มาขึ้นศาลได้ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคม โดยเฉพาะในแง่มุมกระบวนการยุติธรรมและการทำงานของรัฐบาล ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายวิษณุ เลิศสงคราม ปลัดอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม หนึ่งในจำเลยคดีตากใบได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชน หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลาราชการไปตั้งแต่วันที่ 15-18 ต.ค. 67 ซึ่งปรากฏว่าไม่มีใครพบตัวหรือทราบว่าไปอยู่ที่ไหน โดยระหว่างนั้นผู้บังคับบัญชาได้ยกเลิกใบลา เนื่องจากมีหมายจับ แต่ไม่สามารถติดต่อ นายวิษณุ ได้มากว่า 10 วัน กระทั่งเมื่อคดีสิ้นสุดอายุความเมื่อ 25 ต.ค.67

ต่อมาวันที่ 26 ต.ค. 67 นายวิษณุ ได้เข้ามารายงานตัวกับทางอำเภอ และลงพื้นที่ปฏิบัติราชการในวันนี้ (28 ต.ค.67) ซึ่งเป็นการลงพื้นที่หลังได้รับแจ้งว่ามีชายคลุ้มคลั่งเสพยาเสพติดและป่วยจิตเวช ในพื้นที่บ้านนาผักปอด ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นายวิษณุ ที่ห้องทำงาน ซึ่งก็พบว่ามาทำงานตามปกติ แต่ นายวิษณุ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ บอกเพียงว่า เป็นเรื่องเมื่อ 20 ปีก่อน ที่ตัวเองทำหน้าที่เป็นเพียงพลขับเท่านั้น

ด้านผู้บังคับบัญชาในสายปกครอง ให้ข้อมูลว่า เรื่องการสอบวินัย การขาดราชการ ไม่ใช่เฉพาะเคสของปลัดอำเภอท่าอุเทนเท่านั้น แต่ถ้ามีข้าราชการขาดงานติดต่อกันเป็นเวลา 15 วัน ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดจะต้องรายงานไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งบรรจุ นั่นก็คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตามหลักข้อกฎหมายและระเบียบแล้ว หากขาดงานเกิน 15 วัน ผู้บังคับบัญชาสามารถให้ออกจากงานโดยไม่ต้องสอบวินัย แต่ถ้าขาดราชการไม่ถึง 15 วัน ผู้บังคับบัญชาก็จะต้องเสนอให้มีการสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง โทษก็จะมีอยู่ระดับ “ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน และ ลดเงินเดือน”