เมื่อวันที่ 28 ต.ค.นายไชยวัฒน์ ธัญญะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/5 หมู่ 1 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า พบก้อนอ้วกวาฬ หรือ อำพันทะเล น้ำหนักรวม 4.7 กิโลกรัม ใส่ไว้อยู่กล่องพลาสติกหน้าบ้าน เพื่อโชว์ให้ผู้สื่อข่าวและอธิบายว่า เป็นอำพันทะเลที่เก็บได้ขณะนำเรือออกไปหาปลาที่ทะเล พบก้อนสีขาวลอยในทะเล จึงได้เก็บมาไว้ที่บ้านพร้อมพิสูจน์เบื้องต้นด้วยการนำเข็มไปลนไฟ แล้ววางบนอ้วกวาฬ และใช้ไฟเช็กจุดดู พบว่าผิวอ้วกวาฬที่โดนความร้อนจะละลายในทันที ซึ่งผิวที่ละลายมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลคาราเมล มันวาว และมีความเหนียวยืดอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่กลิ่นนั้น คนที่ดมบอกความหอมคล้ายไม้หอมบ้าง หอมแบบแปลกๆ จนสร้างความสนใจให้คนที่ผ่านไปมาในพื้นที่มาร่วมดูร่วมชม ซึ่งทุกคนบอกว่าไม่เคยเห็นของจริงมาก่อนเคยเห็นแต่ในข่าว ซึ่งหากพิสูจน์ว่าเป็นของแท้นั้นจะมีราคาหลายล้านบาท

 ก่อนหน้านี้ เคยมีคนที่พบก้อนอำพันทะเล หรืออ้วกวาฬแล้วครั้งหนึ่ง แต่นานมาแล้ว ซึ่งพบริมชายหาด แต่ของตนพบลอยน้ำอยู่ในทะเล อย่างไรก็ตามได้นำมาทดลองเพื่อพิสูจน์โดยใช้เศษของก้อนขาวๆ ใส่ช้อน และจุดไฟเผา ปรากฏว่าละลายสีเหลืองและแข็งตัวจะมีลักษณะคล้ายเทียนไข เมื่อถูกความเย็น และมีกลิ่นฉุนๆ คาวๆ ซึ่งหลังจากมีคนทราบข่าวว่าตนพบอำพันทะเล หรือ อ้วกปลาวาฬ ได้มาติดต่อขอซื้อ แต่ยังไม่ถูกใจกับราคา แต่อยากให้ผู้ที่ชำนาญเข้ามาพิสูจน์ว่าจริงแท้แค่ไหน พร้อมที่จะขายให้คนที่ต้องการต่อไป

สำหรับอำพันทะเล (Ambergris) คือ ขี้/อ้วก ของวาฬหัวทุย (ขึ้นอยู่กับวาฬจะขับออกมาทางไหน) เกิดจากกอาหารที่วาฬกินเข้าไป คือ จำพวกหมึก แต่ร่างกายของวาฬไม่สามารถขับไขมันจากปลาหมึกได้ ทำให้ไขมันของหมึกสะสมอยู่ในลำไส้ จนร่างกายขับถ่ายไขมันส่วนนี้ออกมาพร้อมอุจจาระ หรือสำรอกไขมันออกมาลอยอยู่ในทะเล อำพันทะเลถูกนำไปใช้ในการผลิตน้ำหอม เพราะมีคุณสมบัติช่วยให้น้ำหอมมีกลิ่นคงทน