นายอัสนี มาลัมพุช ประธานเครือข่ายปาล์มน้ำมันยั่งยืนประเทศไทย (TASPO) และประธานสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะมีการส่งออกน้ำมันปาล์มส่วนเกินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่ไม่มีมูลค่าเพิ่ม เราจำเป็นต้องทำให้น้ำมันปาล์มที่ผลิตในประเทศไทยดึงดูดตลาดและมีคุณภาพสูง “ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน มีคาร์บอนต่ำ และเป็นการค้าที่เป็นธรรม”

การสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยเป็นสิ่งสำคัญ เกษตรกรรายย่อยเป็นกระดูกสันหลังของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของประเทศไทย โดยคิดเป็นประมาณ 85% ของการผลิต เกษตรกรรายย่อยในประเทศไทยถูกกำหนดให้เป็นเกษตรกรที่มีที่ดินน้อยกว่า 50 เฮกตาร์ (312.5 ไร่) และประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลก ที่มีการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรรายย่อยอิสระที่ได้รับการรับรองจากองค์การเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (RSPO) สี่กลุ่มในปี 2555

น.ส.รัฎดา ลาภหนุน ผู้จัดการด้านเทคนิคของ RSPO กล่าวว่า เกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่ในประเทศไทยจัดการสวนปาล์มน้ำมันประมาณ  4-5 ไร่ และมักขาดทรัพยากรในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 3-3.2 ตันต่อไร่ ซึ่งถือว่าต่ำ และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและความรู้ ทำให้เกษตรกรมีอำนาจต่อรองด้านราคาค่อนข้างน้อยและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

การเป็นสมาชิกของ RSPO ในประเทศไทยประกอบด้วย 91 กลุ่มของเกษตรกรทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยมีกลุ่มเกษตรกรรายย่อยอิสระที่ได้รับการรับรองจาก RSPO 34 กลุ่ม ซึ่งครอบคลุมเกษตรกรกว่า 9,062 ราย โดยพื้นที่ที่ได้รับการรับรองรวมกว่า 283,818.69 ไร่ การรับรอง RSPO ช่วยให้เกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงทรัพยากร โอกาสทางการตลาดและราคาพิเศษสำหรับทะลายปาล์มสด (FFB) ซึ่งช่วยเพิ่มผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจให้กับพวกเขา กลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่ได้รับการรับรองสามารถได้รับผลกำไรประจำปีสูงถึง 10.416 ล้านบาท (ประมาณ 287,401 ดอลลาร์สหรัฐ)

ดร.กาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ส่งเสริมและรับรองมาตรฐาน RSPO ความมุ่งมั่นของเรายังขยายไปถึงการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาที่ช่วยเพิ่มมูลค่าทางการค้า และช่วยทำให้แน่ใจว่าการปฏิบัติที่ยั่งยืนมีส่วนสนับสนุนให้ภาคเกษตรกรรมของเราเติบโตและเจริญรุ่งเรือง

ตั้งแต่ปี 2565 พื้นที่ปลูกน้ำมันปาล์มที่ได้รับการรับรอง RSPO ในสุราษฎร์ธานีได้เพิ่มขึ้นจาก 82,178.31 ไร่ เป็น 107,789.31 ไร่ เพิ่มขึ้นคิดเป็น 31% การผลิตทะลายปาล์มสดที่ได้รับการรับรองเพิ่มขึ้นจาก 209,858.53 ตัน เป็น 283,818.69 ตัน ขณะนี้การรับรอง RSPO ครอบคลุม 12 อำเภอ โดยมีเกษตรกรที่ได้รับการรับรองจาก RSPO จำนวน 3,619 ราย RSPO ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการรับรองไปยังพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในทุก 17 อำเภอของสุราษฎร์ธานี