สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ว่า การประหารชีวิตนักโทษกลุ่มดังกล่าว ได้ทำให้สถิติการประหารชีวิตนักโทษในซาอุดีอาระเบีย เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 236 รายแล้วในปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดในรอบนานกว่า 3 ทศวรรษ

กระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบียระบุในแถลงการณ์ว่า พลเมืองเยเมน 4 คน ได้แก่ นายยาห์ยา ลุตฟุลลาห์, นายอาลี อาซิบ, นายอาเหม็ด อาลี และนายซาเลม นาฮารี ถูกประหารชีวิต เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่จังหวัดอาซีร์ ทางตอนใต้ของประเทศ ฐานลักลอบนำกัญชาเข้ามาในราชอาณาจักร

ในวันเดียวกัน มีประกาศการประหารชีวิตชายชาวปากีสถานคนหนึ่ง ในข้อหาเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด และกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบีย ยังยืนยันการประหารชีวิตชาวซาอุดีอาระเบียอีก 2 ราย ในข้อหาฆาตกรรมด้วย

ปัจจุบัน ซาอุดีอาระเบียกลายเป็นตลาดสำคัญสำหรับ “แคปตากอน” ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีน โดยแหล่งที่มาส่วนใหญ่มาจากซีเรียและเลบานอน

ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียเริ่มดำเนินการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดอย่างจริงจัง เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้มีการบุกจับและจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง ส่วนการประหารชีวิตผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวข้องกับค้ายาเสพติด เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการระงับโทษประหารชีวิตจากความผิดดังกล่าว เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

แม้บรรดานักสิทธิมนุษยชนประณามบทลงโทษประหารชีวิตในซาอุดีอาระเบีย ว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และไม่สอดคล้องกับความพยายามของภาครัฐ ซึ่งต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยมากขึ้นบนเวทีโลก

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลริยาดชี้แจงว่า บทลงโทษประหารชีวิตมีความจำเป็น เพื่อรักษา “ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของประชาชน” และการลงโทษจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ จำเลยผ่านการไต่สวนตามกระบวนการยุติธรรมครบทุกขั้นตอน.

เครดิตภาพ : AFP