สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ว่าการหลั่งไหลเข้ามาของผู้อพยพจำนวนมาก ทำให้จำนวนประชากรแคนาดาเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยและราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลแคนาดาจะปรับลดจำนวนการรับผู้อยู่อาศัยถาวรใหม่เหลือ 395,000 คน ในปี 2568, 380,000 คน ในปี 2569 และ 365,000 คน ในปี 2570

สำหรับโควตาจำนวนผู้อยู่อาศัยชั่วคราว จะลดลงอีกประมาณ 30,000 คน เหลือประมาณ 300,000 คน ในปีหน้า

นายไซเอ็ด ฮุสซาน โฆษกของสำนักงานเลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้อพยพของแคนาดา วิจารณ์นโยบายดังกล่าวว่า เป็นการถดถอยของสิทธิผู้อพยพ ซึ่งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เนื่องจากพวกเขาจะถูกผลักดัน ให้ทำงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำนักนายกรัฐมนตรี ของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ผู้นำแคนาดา ยังไม่ได้รายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ ในทันที

ก่อนหน้านี้ แคนาดาผ่อนปรนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับผู้อยู่อาศัยชั่วคราว เพื่อช่วยเติมเต็มปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เมื่อปี 2566 โดยมีแผนการนำผู้อยู่อาศัยถาวรใหม่ปีละ 500,000 คน ระหว่างปี 2568-2569 ขณะที่ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มีผู้อยู่อาศัยชั่วคราว 2.8 ล้านคน รวมทั้งแรงงานต่างด้าว นักเรียนและนักศึกษา

ทั้งนี้ รัฐบาลทรูโดให้คำมั่นว่า จะลดสัดส่วนของผู้อยู่อาศัยชั่วคราวของประชากร ลงเหลือร้อยละ 5 ภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งสถิติเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา อยู่ที่ร้อยละ 6.8

นอกจากนั้น รัฐบาลแคนาดายังให้การอนุมัติวีซ่าน้อยลงในปีนี้ และเจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดนปฏิเสธ ไม่ให้ผู้ถือวีซ่าเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึง ยังมีการจำกัดจำนวนนักเรียนต่างชาติ และเพิ่มความเข้มงวดของโครงการนำเข้าชาวต่างชาติเพื่อทำงานในประเทศชั่วคราว ซึ่งทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการกดขี่เรื่องค่าจ้าง และทำให้คนงานเผชิญกับความเสี่ยงของการถูกละเมิด.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES