จากกรณีหลุมฝังศพไร้ญาติสุสานสว่างเหตุทุ่งเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พบมีกะโหลกหายปริศนาไป 25 หัว เหลือแต่ตัว คาดคนขโมยเอาไปทำอวิชชาไสยศาสตร์ ขณะที่ตำรวจเร่งตรวจสอบหาตัวคนร้าย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อึ้ง! 25 กะโหลกศพไร้ญาติหายปริศนาจากหลุม คาดย่องลักทำคุณไสยอวิชชา

คืบหน้าเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเหตุทุ่งเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พร้อมได้เดินทางไปจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ล้อมรอบด้วยป่ามันสำปะหลัง โดยมีร่องรอยทางเดินทะลุมาจากป่ามันด้านข้างมายังหลุมฝังศพ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้ทางนี้เข้ามาขโมยศีรษะในช่วงเวลากลางคืน

โดยผู้สื่อข่าวได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ถึงมาตรการเพื่อวางแผนป้องกัน โดยเบื้องต้นทางมูลนิธิ จะทำการทำรั้วล้อมรอบ พร้อมกับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น คนเฝ้าสุสาน กรรมการมูลนิธิ ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งเบาะแส พบว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถเก๋งสีแดง คนขับเป็นชายรูปร่างท้วม สูงประมาณ 165-170 ซม. ขับรถเก๋งมาจอดในจุดเกิดเหตุ แล้วเดินดูหลุมศพ จากนั้นก็ขับรถออกไป พอช่วงกลางคืน ก็มีรถกระบะขับมาจอดห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร แล้วคนก่อเหตุคาดว่าน่าจะมาด้วยกันประมาณ 3 คน พร้อมกับนำชะแลงมางัดเปิดฝาหลุมศพ แล้วก็ลงมือตัดเอาเฉพาะศีรษะของศพในถัง แล้วก็ยกออกไปขึ้นรถ

นายโสรัจ มังกรกฏตย์ กรรมการสมาคม กล่าวว่า ช่วงบ่าย 4 โมง ตนได้กลับจากทำธุระที่ อ.พานทอง และขับรถผ่านมา ก็ยังได้พบว่ามีผู้ชายรูปร่างท้วม และก็เห็นรถเก๋งสีแดง จอดอยู่ และชายคนดังกล่าวก็มาเดินวนไปวนมาที่บริเวณหลุม ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่ามาไหว้ศพ แต่พอมาทราบอีกทีว่ามีการลักศีรษะ ก็ตกใจ

นายประเวศน์ สวัสดิ์ศรี อายุ 39 ปี ผู้ดูแลสุสาน กล่าวว่า ในช่วงบ่ายของเมื่อวาน ตนได้รับแจ้งว่ามีรถเข้ามาจอดในสุสาน จึงเข้ามาตรวจสอบ เมื่อมาถึงไม่พบรถคันดังกล่าว จึงได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบหลุมถูกเปิดออกจำนวน 12 หลุม และพบว่ากะโหลกศีรษะของศพหายไป มีร่องรอยการงัดหลุมและมีรอยทางเดินเข้ามาทางป่ามันสำปะหลังด้านข้างสุสาน ซึ่งส่วนตัวมีความรู้สึกเสียใจเพราะศพที่ฝังเป็นศพไร้ญาติและยังต้องมาถูกขโมยกะโหลกศีรษะอีก

ขณะที่ นางกาญจนา พลูศรีงาม อายุ 64 ปี พร้อมกับ น.ส.พัชรา แกมกล้า อายุ 39 ปี ลูกสาว หลังจากทราบข่าวว่ามีคนร้ายบุกเข้าไป ตัดศีรษะศพไร้ญาติภายในสุสานสว่างเหตุทุ่งเหียง ก็รีบเดินทางมาที่สุสานเพื่อดูว่า หลุมฝังศพของนายพรชัย แกมกล้า ซึ่งเป็นลูกชาย ที่เสียชีวิตด้วยอาการป่วย และได้นำร่างมาฝากเอาไว้หลุมที่ 41 เพื่อรอเผา แต่พอทางเจ้าหน้าที่สุสานเปิดหลุมให้ดู ทำให้นางกาญจนา ถึงกับเป็นลมและร่ำไห้ เพราะพบว่า ศีรษะลูกชายหายไปด้วย รวมทั้งอ้อนวอนขอให้เอาศีรษะลูกชายมาคืน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนัสนิคม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในสุสานอีกครั้ง เพื่อเก็บหลักฐานการประกอบคดี และติดตามตัวกลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุลักขโมยศีรษะ โดยจากการเข้าตรวจสอบก็ยังได้พบหลักฐานอีก 1 ชิ้น คือบุหรี่ไฟฟ้าสีน้ำเงินตกอยู่บนฝาหลุมศพไร้ญาติ หลุมที่ 15/42 ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมจะทำการตรวจสอบหาลายนิ้วมือ

ด้านนายจำเนียร เหลือหลาย 70 ปี ชาวบ้าน ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม ได้เดินทางมายังที่สุสาน พร้อมกับลูกหลาน เพื่อมาดูหลุมที่เก็บศพของทางสมาคม ด้วยความเป็นห่วงว่าจะถูกลักขโมยไปหรือไม่ แต่พอมาดูแล้วพบว่าหลุมศพของญาติตนเองไม่ถูกงัดก็มีความรู้สึกโล่งใจ

ทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายจำเนียร เล่าว่า ตนเองได้ทราบข่าวว่าสุสานถูกคนเข้ามาขโมยศีรษะ ซึ่งตอนนั้นตนเองนึกขึ้นเลยว่ามีศพญาติฝังอยู่ จึงได้รีบมาดูและพบว่าหลุมไม่ถูกทำร้าย ส่วนในความคิดตนยังดีใจที่ไม่โดนขโมย ส่วนศพที่เขาถูกลักขโมยคงต้องเสียใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับกล่าวว่า ผู้ที่มาก่อเหตุลักขโมยแบบนี้ สำหรับตนเองคิดว่าไม่น่ามาทำกันแบบนี้เลย ศพที่มาอยู่ตรงนี้บางหลุมเขาก็ไม่มีญาติ และก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปทำอะไร

ทั้งนี้ นายประเวศน์ สวัสดิ์ศรี ผู้ดูแลสุสานได้นำเอกสารรายชื่อของศพที่นำมาฝังไว้ จำนวน 150 รายชื่อ ซึ่งรวมกับรายชื่อศพที่ถูกขโมยกะโหลกศีรษะไป เข้ามาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.พนัสนิคม ตรวจสอบ เพื่อทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และทำการสืบสวนเพื่อตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.