สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้ (22 ต.ค. 2567) กรณีหน่วยตำรวจแห่งชาติของสเปนแถลงข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับ อากอสตินา รูบินิ เมดินา นักศึกษาสาววัย 24 ปีที่หายตัวไปเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว ระหว่างที่เธอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ยามค่ำคืนในเมืองปัลมา เกาะมายอร์กา ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา

ตำรวจคาดว่า เมดินา ตกลงไปในถังขยะขนาดใหญ่ขณะพยายามจะหยิบของบางอย่างที่เธอทำหล่น เช่น โทรศัพท์มือถือ และหมดสติไป ก่อนที่ตัวเธอและขยะทั้งหมดจะโดนเทลงไปในรถบรรทุกขยะ จากนั้นก็โดนบดอัดไปพร้อม ๆ กันด้วยเครื่องบดอัดขยะที่ติดตั้งไว้กับตัวรถจนเสียชีวิต และสุดท้ายร่างของเธอก็ไปอยู่ในเตาเผาขยะ

พนักงานร้านค้าแห่งหนึ่งใกล้ป้ายรถเมล์ซึ่งเป็นเส้นทางกลับบ้านของเมดินาพบเห็นนักศึกษาสาวก่อนจะหายตัวไป เขาเล่าว่า เห็นหญิงสาวมีอาการมึนเมาอย่างเห็นได้ชัด เธอซื้อมันฝรั่งทอดจากร้านไป 1 ถุง ก่อนเวลาเที่ยงคืนเล็กน้อย 

ตำรวจคาดว่า อากอสตินา รูบินิ เมดินา นักศึกษาสาวเสียชีวิตอยู่ในรถเก็บขยะ

ไม่นานหลังจากนั้น พยานคนหนึ่งบอกกับตำรวจว่าเห็นกระเป๋าถือและเสื้อตัวนอกของเมดินาวางอยู่ข้างถังขยะขนาดใหญ่ในช่วง 15 นาทีก่อนที่พนักงานจะมาเทขยะจากถังลงไปในรถเก็บขยะ แต่ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ ดังมาจากในถังขยะ ส่วนทีมสืบสวนก็ยืนยันว่าไม่พบข้อมูลว่าเธอขึ้นรถโดยสารแต่อย่างใด

ข้อมูลจากการติดตามสัญญาณโทรศัพท์มือถือของเมดินาแสดงให้เห็นว่า โทรศัพท์ของเธออยู่ที่จุดที่ตั้งถังขยะประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะเคลื่อนที่ไปยังโรงเผาขยะแล้วสัญญาณก็หายไป ซึ่งตรงกับบันทึกเวลาการเดินทางของรถบรรทุกขยะ ตำรวจระบุว่า เธอน่าจะเสียชีวิตในรถบรรทุกก่อนที่จะมาถึงโรงเผาขยะ

ต่อมา ตำรวจพบโครงกระดูกมนุษย์ที่โรงเผาขยะและได้นำส่งหน่วยงานเพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอว่าเป็นของเมดินาหรือไม่

นอกจากนี้ ทางตำรวจยังชี้ว่า เมดินาเป็นหญิงสาวรูปร่างผอมบางและร่างกายไม่ทนทานต่อฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้มึนเมาได้ง่าย อีกทั้งเธอยังรับประทานยาบางชนิด ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอหมดสติอยู่ในถังขยะดังกล่าว ก่อนที่จะเสียชีวิตในที่สุด

ที่มา : foxnews.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES