เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 ต.ค. 67 ตัวแทนเยาวชนปั่นจักรยานในพื้นที่ 3 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส อาทิ ตากใบ เจาะไอร้อง และระแงะ รวมทั้งตัวแทนนักปั่นจักรยานจากประเทศมาเลเซีย จำนวนกว่า 50 คน ภายใต้การนำของนายมูฮัมหมัดอลาดี เด็งนิ อดีตประธานสมัชชาสังคมเพื่อสันติ ได้จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน 145 ก.ม. จากหน้า สภ.ตากใบจุดเกิดเหตุ ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมอีก 2 วัน คดีการสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จะหมดอายุความ รวมทั้งเป็นการตอกย้ำถึงขบวนการยุติธรรมจากการไต่สวนการตายของประชาชน ที่ร่วมการสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ ที่มีการลงความเห็นว่ามาจากมูลเหตุการขาดอากาศหายใจ

โดยกิจกรรมในวันนี้มีนายฮากิม แนแบอุ่มะ เป็นผู้นำการละหมาดฮายัตและดุอาร์ เพื่อขอพรให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก่อนที่นายมูฮัมหมัดอลาดี จะชี้แจงกิจกรรมแก่กลุ่มตัวแทนเยาวชน ซึ่งตลอดเส้นทางของขบวนจักรยาน มีการนำธงพื้นสีขาวและสีเขียว เขียนข้อความภาษาอาหรับ ซึ่งเป็นชื่อขององค์ศาสดา ที่เชื่อว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ผ่านลุล่วงจุดประสงค์ไปด้วยดี

สำหรับในวันนี้กิจกรรมการปั่นจักรยานในพื้นที่ หน้า สภ.ตากใบ จะไปสิ้นสุดที่กูโบร์ตะโละมาเนาะ ม.1 บ้านตะโละมาเนาะ ต.ลุบะสาวอ อ.บาเจาะ ซึ่งเป็นกูโบร์ที่ฝังศพนิรนามรวมกัน จำนวน 36 ราย จากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เพื่ออุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึงผ็ที่เสียชีวิตในครั้งนั้น ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้๕ณะปั่นจักรยานจะดำเนินกิจกรรมเป็นวันที่ 2 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี

ด้านนายมูฮัมหมัดอลาดี เด็งนิ อดีตประธานสมัชชาสังคมเพื่อสันติ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีการจากสถานีภูธรอำเภอตากใบถึงอำเภอหนองจิกจังหวัดปัตตานี ซึ่งระยะทางรวม 145 กิโล เราปั่นเพื่อตามหาออกซิเจน ซึ่งโครงการนี้ที่เราจัดเพราะอีกไม่กี่วันเพราะคดีตากใบจะหมดอายุความ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่กระบวนการยุติธรรม ไม่สามารถที่จะดำเนินการต่อได้ และเหลือเวลาอีกแค่ 2 วันจะหมดอายุความ และที่มาของการปั่นในครั้งนี้เพราะตอนที่มีการสลายการชุมนุมที่ตากใบระยะทางในการขนย้าย 145 กิโล และตอนนั้นศาลก็ได้มีการไต่สวนแล้วบอกว่าขาดออกซิเจนคือการอากาศหายใจ และเป็นที่มาของในวันนี้ที่เราได้มีการปั่นจักรยานรวม 145 กิโลเพื่อตามหาออกซิเจน ซึ่งเราก็คิดว่าการปั่นในครั้งนี้จะมีการส่งเสียงของคนในพื้นที่แห่งนี้สงบและกระบวนการยุติธรรมสามารถไปต่อได้ซึ่งทุกคนต้องกล้าที่จะพิสูจน์ในชั้นศาลว่าผิดหรือไม่ผิด ซึ่งวันนี้เราจะมีการละหมาดฮายัตเพื่อให้พื้นที่เกิดความสงบสุขและเกิดความสันติภาพโดยเร็ว และไปที่กุโบว์(สุสาน)เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิต และก็ปั่นออกเดินทาง ไปจนถึงมัสยิดตะโละมาเนาะที่อำเภอบาเจาะ ซึ่งที่อำเภอบาเจาะนั้นก็จะมีสุสานของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ตากใบ ซึ่งสุสานที่นั่นก็จะมีทั้งหมดด้วยกัน 36 สุสาน มีผู้เสียชีวิต 36 ศพ ซึ่งไม่สามารถที่จะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ว่าเป็นใคร เลยมีการไปฝังรวมที่นั่น.