เมื่อเวลา10.00 น. วันที่ 23 ต.ค. 67 ที่ สำนักงาน Sittra Law Firm ถนนสาทรใต้ เขตสาทร กทม. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะเดินทางเข้าพบ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อพูดคุยไกล่เกลี่ยถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยบาดหมางกัน

ทนายตั้ม เปิดเผยว่า ก่อนที่จะให้พี่อัจฉริยะพูด ตนขอเกริ่นนำก่อนว่า พี่อัจอยากเข้ามาหาตน เพื่อมาพูดคุยกับตนถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ที่เคยมีการพูดพาดพิงตน ซึ่งตนเองและนายอัจฉริยะ รู้กันในช่วงประมาณปลายปี 60-ต้นปี 61 ซึ่งเป็นการทำคดีร่วมกัน ในเรื่องกรณี หวย 30 ล้าน ระหว่างหมวดจรูญ และครูปรีชา แต่ต่อมา ตนและพี่อัจ ก็เกิดความเข้าใจผิดกัน และมีคดีความเกิดขึ้น

ด้านนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้คงถึงเวลาแล้วที่ตนกับตั้ม จะเลิกทะเลาะกัน หรือมีคดีความต่อกัน และตนก็คิดว่ามันมีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นในวงราชการจำนวนมาก เลยคิดว่าวันนี้ตนอยากชวนทนายตั้มมาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนด้วยกัน ที่ผ่านมาก็ยอมรับว่าบางส่วนมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน บางส่วนก็เป็นไปตามที่มีคำพิพากษาไปแล้ว ตนจึงตั้งใจมาชวนทนายตั้มมาทำงานเพื่อสังคมด้วยกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้กรณีที่ความขัดแย้งของเรื่องสองบิ๊กตำรวจ มีการสาดข้อมูลใส่กันไปมามากมาย แต่ทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงมาคืนดีกัน​ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า​ ขนาดนายเนวิน กับนายทักษิณ ยังจับมือกันได้หลังจากที่มีเรื่องบาดหมางกันมานาน วันนี้โลกมันเปลี่ยนไป ตนกับทนายตั้ม ก็มีเรื่องบาดหมางกันตั้งแต่ปี 61 จนเป็นเวลา 6 ปีแล้ว ตนคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราทั้งสองฝ่ายต้องช่วยกัน เพราะว่ามันเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากกว่าที่จะมาทะเลาะกันหรือมีเรื่องบาดหมางกัน

นายอัจฉริยะ​ ยืนยันว่า​ จบคือจบไม่มีกลับมาเล่นงานกัน อะไรที่ตนล่วงเกินทนายตั้ม ก็ต้องขอโทษ วันนี้อยากให้มาเริ่มต้นปราบปรามการทุจริตของวงราชการ โดยเฉพาะตำรวจ มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เขาไม่รู้ว่าจะพึ่งใคร

ด้านทนายตั้ม เผยว่าว่า ที่ผ่านมาถ้าตนได้ล่วงเกินอะไรนายอัจฉริยะ ตนก็ขอโทษด้วยเช่นกัน แล้วก็นับจากเวลานี้เป็นต้นไป ตนกับนายอัจฉริยะจะมาร่วมกันทำเพื่อสังคมต่อไป.