สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ว่าหลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ ประกาศเตือนการระบาดของเชื้ออีโคไล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบริโภคแฮมเบอร์เกอร์ “ควอเตอร์ พาวเดอร์” (Quarter Pounder) จากร้านแมคโดนัลด์ ราคาหุ้นของแมคโดนัลด์ ซึ่งเป็นเครือร้านฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่ระดับโลก ร่วงลงมากกว่าร้อยละ 6 เมื่อวันอังคาร

ทั้งนี้ จากจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดที่มีการยืนยัน ซึ่งกระจายอยู่ใน 10 รัฐ มีอย่างน้อย 10 คน ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หนึ่งในนั้นเป็นเด็ก โดยทั้งหมดมีกลุ่มอาการเม็ดเลือดแดงแตก-ยูรีเมีย (เอชอูเอส) ซึ่งทำลายหลอดเลือดในไต และมีสาเหตุมาจากการติดเชื้ออีโคไล

ผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการตรวจพบเชื้ออีโคไลสายพันธุ์เดียวกัน และทุกคนรับประทานควอเตอร์ พาวเดอร์ ก่อนล้มป่วย ส่วนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย ซึ่งซีดีซียืนยันแล้ว เป็นผู้สูงอายุ อาศัยอยู่ที่รัฐโคโลราโด

แม้ยังไม่สามารถระบุส่วนประกอบที่น่าจะเป็นพิษได้อย่างแน่ชัด แต่เจ้าหน้าที่ได้พุ่งเป้าไปที่หัวหอมหั่นฝอยและเนื้อสับ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการสืบสวนเพิ่มเติม

นายโจ เออร์ลิงเกอร์ ประธานแมคโดนัลด์สหรัฐ ยืนยันการระงับจำหน่าย ควอเตอร์ พาวเดอร์ ในบางรัฐ และสั่งเก็บหัวหอมหั่นฝอยในทุกสาขาของแมคโดนัลด์

ทั้งนี้ ซีดีซีแนะนำ ให้ผู้ที่มีอาการของเชื้ออีโคไล เช่น ท้องเสีย, มีไข้เกิน 38.9 องศาเซลเซียส และอาเจียน รีบไปพบแพทย์ แม้อาการมักแสดงออก หลังสัมผัสเชื้อประมาณ 3-4 วัน และส่วนใหญ่อาจหายเอง ภายใน 5-7 วัน โดยไม่ต้องรับการรักษา อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจรุนแรง และผู้ป่วนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES