วงที่มาแรงยืนหนึ่งความซูเปอร์เฟมัสระดับโลก aespa (เอสป้า) ระเบิดที่สุดแห่งความสนุกในเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 2 ‘2024 aespa LIVE TOUR – SYNK : PARALLEL LINE – in BANGKOK’ (2024 เอสป้า ไลฟ์ ทัวร์ – ซิงก์ : แพราเลล ไลน์ – อิน แบงค็อก) ทั้งหมด 2 รอบการแสดง ที่อิมแพ็ค อารีน่า โดยการแสดงที่ประเทศไทยครั้งนี้ถือเป็นประเทศปิดทัวร์ครึ่งแรกของพวกเธอ ก่อนจะเดินหน้าทัวร์ต่อในอเมริกาและยุโรปช่วงต้นปีหน้า 2025 ที่สำคัญ aespa (เอสป้า) ยังสร้างสถิติใหม่ที่ดีที่สุดในฐานะ ‘เกิร์ลกรุ๊ปเค-ป๊อปเจน 4 วงแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ต ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้สำเร็จ 2 รอบการแสดง และบัตรหมดเกลี้ยงทันทีที่เปิดจำหน่าย’ รวมผู้ชมทั้งสิ้นกว่า 20,000 คน ตอกย้ำถึงการเป็น ‘เบอร์ 1 เจน 4’ ของจริง

ก่อนการแสดงรอบแรกผู้จัดและต้นสังกัดในประเทศไทย SM True (เอสเอ็ม ทรู) ได้จัดงานแถลงข่าวประกาศความนิยมอันน่าทึ่งของ aespa (เอสป้า) ซึ่งทั้ง 4 สมาชิก KARINA (คาริน่า)GISELLE (จีเซลล์)WINTER (วินเทอร์) และ NINGNING (หนิงหนิง) ได้ร่วมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความรู้สึกของการกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง พร้อมกับเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 2 รวมถึงกระแสตอบรับอันถล่มทลายจากแฟนคลับชาวไทย, ความสำเร็จของอัลบั้มเต็มชุดแรก ‘Armageddon’, เบื้องหลังมิวสิกวิดีโอเพลงไตเติล ‘Supernova’ ที่ถ่ายทำในประเทศไทย, การสปอยล์ผลงานใหม่ และอื่น ๆ

โดยบทนำของคอนเสิร์ตนี้เปิดด้วยสัญลักษณ์ประจำตัวสมาชิกท่ามกลางเสียงดนตรีที่ชวนให้ตื่นเต้น เร่งจังหวะเพิ่มความตระการตาปูไปสู่ประโยคที่ดังขึ้นว่า “I’m the Drama.” ที่ทุกเรื่องราวล้วนเริ่มต้นขึ้นจากการปรากฏตัวอย่างสง่างามของตัวละครหลัก aespa (เอสป้า) ในเพลง ‘Drama’ แล้วจึงเดินเรื่องต่อแบบเชื่อมดนตรีกันในเพลงเดบิวต์ ‘Black Mamba’ และ ‘Salty & Sweet’ ตามด้วยบทแรกที่พาไปสัมผัสกับการมาถึงของอีกหนึ่งตัวตนของพวกเธอในเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ความฮิตไปทั่วโลก ‘Supernova’ และเพลงที่เผยความเย้ายวนเล่นกับมุมกล้อง ‘Mine’ จากนั้นจึงทักทายผู้ชมพร้อมเติมเต็มความรู้สึกกระหายเสียงหวาน ๆ ด้วยเพลง ‘Thirsty’‘Prologue’ และฟินไปกับเคมีความน่ารักในเพลง ‘Long Chat (#)’ ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงที่ทุกคนตั้งตารอคอย คือ เวทีเพลงโซโล่ของสมาชิก ตั้งแต่เพลงอาร์แอนด์บีชวนฝัน Dopamine’ ของ GISELLE (จีเซลล์) ที่มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องและทำนอง สะกดทุกสายตาด้วยท่าเต้นสุดเซ็กซี่แบบฮอตเวอร์, เพลงฮิปฮอปแดนซ์ให้ฟีลโอลด์สคูล UP’ ที่เนื้อร้องทั้งหมดแต่งโดย KARINA (คาริน่า) อัปเสน่ห์ความเท่ครองเวทีได้อิมแพ็คสุด ๆ, เพลงอาร์แอนด์บี แดนซ์ Bored!’ ที่ NINGNING (หนิงหนิง) ร่วมแต่งเนื้อร้อง ดื่มด่ำไปกับอารมณ์ชิลล์ ๆ และความสวยสง่าที่ชวนให้ตกหลุมรักอย่างไม่มีวันเบื่อ และเพลงอีดีเอ็มที่มีซาวนด์โดดเด่นอย่าง Spark’ ของ WINTER (วินเทอร์) ที่มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องและทำนอง โชว์โวคอลสุดอลังการผสานความเพอร์เฟกต์จริงทุกท่วงท่า อีกทั้งยังจุดประกายความรักที่มีต่อแฟนคลับโดยใช้ภาพแฟนคลับเป็นพื้นหลังการแสดง ซึ่งเวทีเพลงโซโล่ที่แสดงเอกลักษณ์ของ 4 สมาชิก 4 สไตล์นี้ ได้ยืนยันถึงความสามารถของสมาชิกแต่ละคนที่เติบโตไปอีกขั้นในฐานะศิลปิน

เดินทางมาถึงครึ่งเรื่องของคอนเสิร์ตที่เปลี่ยนบรรยากาศให้คึกคักไปกับเพลงเผ็ดร้อนเกินใจต้านทาน ‘Spicy’, เพลงที่มีท่าโพสกวน ๆ เรียกรอยยิ้ม ‘Licorice’, เพลงแนวเทคโนกับท่อนแดนซ์แบทเทิลสุดมันส์ ‘Hold On Tight’, เพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อกในตำนาน ‘시대유감 (Regret of the Times) (2024 aespa Remake Ver.)’ ที่ตีความใหม่โดย aespa (เอสป้า) โชว์พลังเสียงและการแร็ป รวมถึงเซอร์ไพรส์ขึ้นรถเลื่อนไปหาผู้ชมรอบฮอลล์อย่างใกล้ชิดในเพลง ‘Live My Life’ กับ ‘We Go’ แล้วเข้าสู่ช่วงไคล์แม็กซ์เปิดอีกหนึ่งโลกทัศน์แบบสุดล้ำด้วยเวทีโซโล่แจ้งเกิด ‘Done’ ของ nævis ศิลปินเสมือนจริงคนแรกของค่าย SM Entertainment ก่อนจะยกระดับความร้อนแรงไปอีกเลเวล พร้อมจัดเต็มเสน่ห์ของ ‘รสชาติเหล็ก’ อันเป็นเอกลักษณ์ของ aespa (เอสป้า) โชว์การแสดงอันแข็งแกร่งทรงพลัง ในเพลงจังหวะดุดัน ‘Trick or Trick’, เพลงที่มีท่าเต้นสุดเท่เป็นไวรัล ‘Set The Tone’, เพลงเมกะฮิต ‘Next Level’ และเพลงไตเติลล่าสุด ‘Armageddon’ ที่ร้องตามกันดังทะลุฮอลล์ ไม่เพียงเท่านี้ ช่วงระหว่างรออังกอร์ยังมีแดนซ์ชาเลนจ์เพลงฮิตต่าง ๆ ให้ผู้ชมได้ร่วมเต้นอย่างสนุกสนานสำหรับตอนจบของคอนเสิร์ตนี้ aespa (เอสป้า) ได้เลือกเพลงที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ‘BAHAMA’ และประสานเสียงร้องสดอันน่าประทับใจในเพลงบัลลาดสุดอบอุ่นอย่าง ‘목소리 (Melody)’ ส่งความจริงใจถึงแฟนคลับดั่งเสียงที่มอบความเข้มแข็งให้กันและกันเสมอมา ทางด้าน ‘MY’ (มาย : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ก็ตั้งใจทำแฟนโปรเจกต์ที่มีความหมายดี ๆ แถมยังสร้างสีสันแห่งความสุขมากมาย ได้แก่ การใส่ที่คาดผมเป็นรูป ‘เอเลี่ยน’ สื่อถึงคอนเซ็ปต์อัลบั้มเต็มชุดแรก และรูป ‘หมู’ สื่อถึงเกาะหมูของ BAHAMA ตามชื่อเพลง, การชูสโลแกนที่มีความหมายว่า“เส้นขนานของ aespa และ MY ได้มาบรรจบกันในวันนี้” “ไม่ว่าที่ไหนที่ aespa มองไป MY จะอยู่ตรงนั้นเสมอ”, การแปรอักษรจากกล่องไฟเป็นคำว่า“MYs  에스파 (aespa) ” “나는 럭키 (ฉันโชคดี) ”และการติดป้ายไวนิลประโยคซึ้ง ๆ ว่า “หลังจากนี้มาเดินบนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบด้วยกันตลอดไปเลยนะ”“aespa ส่องสว่างยิ่งกว่าดวงดาวในค่ำคืนนี้” โดยสามารถเห็นได้ว่าคอนเสิร์ตที่ถูกร้อยเรียงและถ่ายทอดออกมาราวกับละครเรื่องนี้ยิ่งจบลงอย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้นเมื่อมี MY(มาย) แฟนคลับและเพื่อนคนที่ล้ำค่าที่สุดของ aespa (เอสป้า) ที่คอยอยู่เคียงข้างกันมาตั้งแต่เริ่มนั่นเอง

แฟนๆสามารถติดตามข่าวสารรอบโลกได้แล้ววันนี้ที่ www.dailynews.co.th และทุกแพลตฟอร์มของ Dailynews