เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 67 นายชาดา ไทย​เศรษฐ์​ สส.อุทัยธานี​ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่อำเภอ​บ้านไร่ หลังจากที่เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อย่างหนัก เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 ตุลาคม​ ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า เมื่อคืนที่เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ใจกลางอำเภอบ้านไร่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ได้เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยออกมาได้ โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงผู้ที่ถูกไฟฟ้าช็อตเล็กน้อย เช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้านำกำลังเร่งช่วยล้างทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพราะต้องล้างโคลนออกจากท่อระบายน้ำด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแห้งแล้วเกิดปัญหาเหมือนที่แม่สาย ส่วนความเสียหายนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุไม่มีเวลาตั้งตัว พื้นที่เทศบาลและชาวบ้านต่างไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์​แบบนี้ขึ้น จึงไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวรับมือกับสถานการณ์

‘อุทัยธานี’ ชาวบ้านยังผวาเร่งฟื้นฟู หลังถูก ‘นํ้าป่า’ ซัดถล่มหนีตายโกลาหล

“เหตุการณ์​ครั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 50 กว่าปี ที่เกิดน้ำป่าหลากท่วมหนักและรุนแรงขนาดนี้ เพราะน้ำป่ามาซ้ำในขณะที่ฝนยังตกหนัก มีบางพื้นที่ที่เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน​ ทหาร ได้แจ้งเตือนไปยังชาวบ้านให้รีบอพยพได้ทัน ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายน้อย พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่รับน้ำที่จะไหลลงสู่เขื่อนที่ด่านช้าง ชาวบ้านให้ความร่วมมือในการอพยพเป็นอย่างดี มีหน่วยกู้ภัยและทหารพัฒนามาช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อแจ้งขอรับเงินเยียวยาจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามระบบการเกิดภัย แต่ต้องบอกว่า ระบบราชการไทยยังล้าหลัง ให้แต่ของ ไม่มีช่างมาช่วยเหลือ ประชาชนจึงต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันไปก่อน ในส่วนของการเยียวยาเบื้องต้นเป็นเรื่องสำคัญ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ต่อไป” นายชาดา กล่าว

โดยล่าสุด เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน (20 ต.ค.) นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผวจ.อุทัยธานี เปิดเผยว่า ได้ประกาศเขตภัยพิบัติกรณีน้ำป่าไหลหลากเมื่อคืนนี้ (19/10/67) ในพื้นที่อำเภอบ้านไร่ทั้งหมด เนื่องจากได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง หลังจากนี้ได้ประสานให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีรถน้ำนำเข้าพื้นที่อำเภอบ้านไร่ เพื่อทำความสะอาดฟื้นฟูในจุดที่ได้รับความเสียหาย และมอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจพื้นที่และบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบราชการแล้ว