ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ ได้เข้าร่วมการประชุมสหพันธ์ขงจื๊อ นานาชาติ ครั้งที่ 7 ที่ศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีแขกผู้มีเกียรติฝ่ายจีนที่เข้าร่วมคือ นายหวังฮู่หนิง ประธานสภาที่ปรึกษาการเมือง แห่งประเทศจีน, คุณซุนชุนหลาน อดีตรองนายกรัฐมนตรี แห่งประเทศจีน และนายกสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ, นายติงเหว่ย อุปนายกคนที่ 1 สหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ, นายหยางว่านหมิง นายกสมาคมมิตรภาพแห่งประเทศจีน และแขกผู้ใหญ่จากต่างประเทศ นายยาซูโอะ ฟูกูดะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, นายมัสซิโม ดาเลมา อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี, วินเซ็นต์ เมริตัน อดีตรองประธานาธิบดีเซเชลส์ และแขกผู้มีเกียรติจากประเทศมาเลเซียและกัมพูชา รวมกว่า 1,000 คนได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้

เวลา 14.00 น. สหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ ได้จัดการเลือกตั้งผู้บริหาร สมัยใหม่ของสหพันธ์ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ได้ถูกเลือกตั้งเป็นรองประธานสภาสหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ เพื่อร่วมดำเนินการจัดงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี ต่อไป

คำกล่าวของท่านพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ในงานสัมมนาทางวิชาการนานาชาติเพื่อรำลึกครบรอบ 2575 ปีแห่งการกำเนิดของขงจื๊อและการประชุมสมาชิกสมัยที่ 7 แห่งสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ

“ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาเข้าร่วมงานสัมมนาทางวิชาการนานาชาติเพื่อรำลึกครบรอบ 2575 ปีแห่งการกำเนิดของขงจื๊อ และการประชุมสมาชิกสมัยที่ 7 แห่งสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจในการเปิดการประชุมครั้งนี้มา ณ โอกาสนี้ด้วย

ปีนี้เป็นปีครบรอบ 30 ปีแห่งการก่อตั้งสมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา สมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติได้สร้างคุโณปการอันใหญ่หลวงแก่การส่งเสริมวัฒนธรรมขงจื๊อ ผลักดันการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและอารยธรรมระหว่างประเทศ กระตุ้นพัฒนาสันติภาพของโลก ในอนาคตข้างหน้า สมาพันธ์ขงจื๊อนานาชาติจะต้องได้รับผลสำเร็จอันรุ่งโรจน์ในขอบเขตอันกว้างขวางของโลกอย่างแน่นอน

ขงจื๊อเป็นนักคิด นักปราชญ์ นักการศึกษาที่ยิ่งใหญ่ และเป็นผู้ก่อตั้งสำนักปรัชญาขงจื๊อ ความคิดของท่านได้สืบทอดมากว่า 2000 ปี จนถึงปัจจุบันก็ยังมีอิทธิพลอันทรงพลังต่อการพัฒนาวัฒนธรรมและอารยธรรมทั้งจีนและทั่วโลก ในประเทศไทย ขงจื๊อได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงจากประชาชนไทย ความคิด “เหริน อี้ หลี่ จื้อ ซิ่น” ของขงจื๊อซึ่งแปลเป็นไทยคือ “เมตตาธรรม ยุติธรรม จริยธรรม บัณฑิตปัญญา และความเชื่อถือ” ตรงกับวัฒนธรรมขนบประเพณีของประชาชนชาวไทยอย่างใกล้ชิด เข้าสู่ในหัวใจประชาชนไทยอย่างลึกซึ้ง ข้าพเจ้าเองในปี 2015 ได้เข้าร่วมประชุม Forum วิชาขงจื๊อ Nishan ที่ศูนย์วัฒนธรรมจีน ณ กรุงเทพฯ

ประเทศจีนโดยได้รับอิทธิพลจากความคิดขงจื๊อ เคารพความหลากหลายอารยธรรมของโลก กระตุ้นอารยธรรมโลกพัฒนาร่วมกัน ได้รับความชื่นชมยกย่องจากประชาชนประเทศต่างๆ ทั่วโลก ความคิดแบบ “ความปรองดองสามัคคีเป็นสิ่งล้ำค่า” ของขงจื๊อเป็นหลักนโยบายอันสำคัญที่จีนถือปฏิบัติต่อต่างประเทศมาตลอด เมื่อปี 2023 ท่านประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้เสนอในการประชุมสนทนาระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับผู้นำพรรคการเมืองของโลกว่า “ประชาชนประเทศต่างๆ ทั่วโลกจงยึดมั่นในข้อคิดมนุษย์อยู่ใต้ฟ้าเป็นครอบครัวเดียวกัน พยายามสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ” ข้อเสนออันสำคัญของท่านประธานาธิบดีสีจิ้นผิงดังกล่าวเป็นการชี้ทางอย่างถูกต้องให้แก่การส่งเสริมการไปมาหาสู่กันฉันมิตรระหว่างประเทศต่างๆ ผลักดันอารยธรรมที่ต่างกันให้อยู่ด้วยกันเพื่อรับมือกับการท้าทายต่างๆ ของทั่วทั้งโลก

ท่านผู้แทนร่วมประชุมทั้งหลาย มิตรทั้งหลาย ขงจื๊อกล่าวไว้ว่า “มิตรสหายจากแดนไกลมาเยี่ยมเยือนมิใช่เรื่องน่ายินดีหรือ” เราทุกท่านจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาพร้อมหน้าเจอกันที่ปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมการประชุมใหญ่ครั้งนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยาก แต่ว่าโลกปัจจุบันก็ยังไม่สงบนิ่ง ขอให้เราสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เคารพรักต่อกัน ใช้ความพยายามต่อไปเพื่อให้มนุษยชาติห่างไกลจากสงครามและความทุกข์ยากลำบาก ส่งเสริมให้บรรลุความสงบสุขและเสถียรภาพในโลกทั้งปวง

ในประวัติศาสตร์อารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของชนชาติจีน ใน 551 ปีก่อนคริสตกาลได้เกิดนักปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ของจีนและของโลก คือ ขงจื๊อ ในขณะเรารำลึกถึงบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ในยุคโบราณ เราก็ยังมีความเคารพนับถือผู้นำอันยิ่งใหญ่ในยุคปัจจุบัน ในปี 1893 ได้เกิดนักปรัชญาและนักปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ของโลก คือ ท่านประธานเหมาเจ๋อตุง เป็นผู้นำที่ทำให้จีนลุกยืนขึ้นในเวทีโลกอย่างสง่าผ่าเผย ในปี 1904 ได้เกิดผู้นำ คือ ท่านเติ้งเสี่ยวผิง ได้นำพาชาวจีนเจริญรุ่งเรือง มีกินมีใช้ ทำให้จีนได้ผงาดขึ้นมา ในปี 1953 ได้มีประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ นำพาให้คนจีนแข็งแกร่งและมั่นคง สง่างาม และยังได้มีบทบาทอันสุดยอดแก่การกระตุ้นสันติภาพของโลก ผลักดันความก้าวหน้าแก่อารยธรรมมนุษยชาติ สมกับเป็นผู้นำโลก ขอขอบพระคุณทุกท่าน”