จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ลงภาพของคุณลุง Rider​ ซึ่งมีบาดแผลบริเวณ หางคิ้วข้างซ้าย และตาซ้ายปูดบวม​ โดยมีการระบุข้อความว่า ปั๊มคาลเท็กซ์ แก้วอินทร์ บางใหญ่ ระวังกันด้วยนะคะ #สงสารคุณลุงไรเดอร์มาก #ยังจับคนร้ายไม่ได้เลย คุณลุงไม่มีลูกไม่มีหลานไม่มีเมีย มีแต่แม่ด้วยค่ะ

โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับคุณลุงชัยพร​ ปุ่นโหมด​ อายุ​ 64 ปี​ เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่ามีอาการบาดเจ็บที่ใบหน้าบริเวณ หางคิ้วด้านซ้าย และดวงตาปูดบวม เขียวช้ำ​ เสื้อ Rider ที่ใส่ยังมีคราบเลือดติด​เต็มไปหมด​ โดยลุงชัยพร เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่​ 16 ต.ค. ช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ตนขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งอาหารให้ลูกค้า​แถว ห้างสรรพสินค้าเวสเกต หลังจากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์มาทางถนนกาญจนาภิเษกขาเข้าช่องทางคู่ขนาน​ เลยหมู่บ้านจินตรการไปประมาณ 100 เมตร​ ซึ่งบริเวณนั้นค่อนข้างมืด ปรากฎว่า​มีรถตู้ยี่ห้อฮุนได​สีดำ​ รุ่นเก่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับปาดหน้าและชะลออยู่ด้านหน้าตน​ พร้อมกับบีบแตร​ ส่วนด้านหลังมี​รถกระบะ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อีกคันหนึ่ง​ขับขี่ตามมาและบีบแตรไล่ตน​ จู่ๆ รถตู้คันหน้าก็เบรกกะทันหัน ตนจึงเฉี่ยวท้ายรถตู้ จากนั้นจึงจอดรถแล้วลงไปพูดคุยเจรจากัน​ ปรากฏว่ารถกระบะที่ขับตามมาก็ได้ขับมาปิดประกบตน​ ส่วนคนขับรถตู้​สวมเสื้อสีขาว ถามว่ารู้ไหมว่ากูเป็นใคร และมีการห้อยบัตรคล้ายเจ้าหน้าที่ แล้วบอกให้ตนนำใบขับขี่ออกมาให้ดู​ จึงได้หยิบใบขับขี่ออกมาให้ จากนั้นชายที่ขับรถตู้ก็บอกว่าให้ตนชดใช้ค่าเสียหาย 5,000 บาท จึงบอกว่าให้ไปเคลียร์กันที่สถานีตำรวจ​ จังหวะนั้นคนขับรถกระบะสวมเสื้อสีดำก็เดินลงมา แล้วกระชากกระเป๋าตังค์ของตนไป​ หยิบเงินในกระเป๋าตังค์ที่มีอยู่ประมาณ 1,500 บาทไป ขณะที่ตนกำลังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก็ถูกชายคนขับรถตู้แย่งไปแล้วชกเข้าที่เบ้าตาซ้ายของตน​จนเลือดอาบหน้า​ แล้วคืนโทรศัพท์มือถือให้กับตน ก่อนที่จะขับขี่รถยนต์หลบหนีไปทั้ง 2 คัน​ ตนจึงเก็บข้าวของที่ร่วงหล่น แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปที่ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร ซึ่งจะมีกลุ่มไรเดอร์ที่ตนรู้จักจอดอยู่ เพื่อขอความช่วยเหลือ​ จนเจ้าหน้าที่ กู้ภัยเดินทางมา แล้วพาส่งโรงพยาบาล​ แพทย์แจ้งว่าคิ้วแตกเย็บ 5 เข็ม กระดูกบริเวณเบ้าตาแตกร้าว​ ตอนนี้ต้องกลับมาพักฟื้นที่บ้านก่อน เพื่อให้แผลบริเวณคิ้วหาย แล้วไปรักษาอาการบาดเจ็บภายในดวงตา ซึ่งมีความเสี่ยงว่าอาจตาบอดได้​

โดยลุงชัยพร ยังบอกอีกว่า ตนมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุมีวัตถุประสงค์ที่จะตบทรัพย์ ไม่ได้มีการขับขี่รถจักรยานยนต์ ปาดหน้าหรือมีปัญหากันมาก่อน​ เพราะเท่าที่ตนสังเกต รถตู้ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถกระบะก็ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน​ และทั้ง 2 คันขับมาประกบตน​ พอได้เงินไปก็ขับขี่รถ หลบหนีไปเลย หากเป็นอุบัติเหตุ หรือไม่พอใจการบนท้องถนน ก็ต้องเรียกประกันหรือว่าไปคุยกันที่สถานีตำรวจ​แล้ว​

เรื่องนี้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยติดตามจับกุมคนร้าย ให้ได้ ให้มาชดใช้ค่าเสียหายและนำเงินมาคืน ตนอายุขนาดนี้ ออกไปทำมาหากินวิ่งไรเดอร์ได้เงินวันละประมาณ 500 บาท ต้องเลี้ยงแม่ชรา มาถูกชายหนุ่มๆมีกำลัง ทำมาหากินได้มากกว่าตนมาก​ ทำร้ายร่างกายและเอาเปรียบแบบนี้ ไม่เป็นธรรมกับตนเลย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.​บางใหญ่​ ได้ลงพื้นที่ มาที่บ้านพักของคุณลุงชัยพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม​ โดยแจ้งกับคุณลุงชัยพรและทีมข่าวว่าเบื้องต้นได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาระดับหนึ่ง​ แล้วกำลังไล่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี​ เชื่อว่า​ใช้เวลาไม่นานสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แน่นอน.