กรณีศึกษาทางการแพทย์สุดแปลกประหลาดนี้เพิ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วใน Journal of Medical Case Reports โดยเป็นการค้นพบระหว่างการผ่าศพชายสูงอายุชาวอังกฤษรายหนึ่งเพื่อการศึกษา
ระหว่างที่กลุ่มนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมแห่งสหราชอาณาจักร กำลังผ่าศพของชายชราวัย 78 ปี พวกเขาก็พบลักษณะทางกายวิภาคที่แปลกประหลาดและโดดเด่นอย่างมาก ซึ่งเคยมีบันทึกถึงลักษณะที่คล้ายคลึงกันนี้เพียงรายเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ทีมศึกษายังเชื่อว่าชายชราผู้นี้อยู่มาตลอดชีวิตโดยที่ไม่รู้ว่าอวัยวะเพศของตัวเองมีความพิเศษกว่าผู้ชายคนอื่น ๆ
ทีมผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า ชายชราผู้นี้มีความผิดปกติแต่กำเนิดที่หาได้ยากมากเรียกว่า ไทรฟาลเลีย (Triphallia) ซึ่งแปลว่า “องคชาต 3 อัน”
ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีแบบเดียวกัน เป็นเด็กทารกแรกเกิดในอิรักผู้เกิดมาพร้อมกับองคชาต 3 อัน ในปี 2563 ซึ่งเป็นกรณีแรกและกรณีเดียวที่เคยมีบันทึกไว้ ส่วนกรณีของชายสูงวัยรายนี้ เป็นการค้นพบอาการไทรฟาลเลียในผู้ใหญ่เป็นรายแรกของโลก
ชายชราผู้เป็นเจ้าของอวัยวะเพศที่ไม่เหมือนใครนี้เป็นชายผิวขาว สูงประมาณ 6 ฟุต เขาบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษาทางการแพทย์หลังจากเสียชีวิต และเมื่อทีมนักศึกษาผ่าศพของเขาสำรวจร่างจากภายนอกในตอนแรกก็ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ
จนกระทั่งเมื่อทีมนักศึกษาแพทย์เริ่มลงมือผ่า พวกเขาจึงพบ “องคชาตขนาดเล็กที่งอกเกินออกมา” 2 อัน อยู่ในระนาบเดียวกันกับองคชาตหลัก และ “ซ่อนตัวอยู่ในถุงอัณฑะ”
นอกจากนี้ยังพบว่า องคชาตแต่ละอันต่างมีส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อยืดหยุ่นและส่วนหัวของตัวเอง แต่องคชาตหลักและองคชาตอันที่ 2 ใช้ท่อปัสสาวะร่วมกัน ทำให้การขับถ่ายปัสสาวะจะต้องไหลผ่านท่อในส่วนขององคชาตอันที่ 2 ก่อน จากนั้นจึงไหลออกทางท่อปัสสาวะขององคชาตหลัก
ในรายงานระบุว่า องคชาตอันที่ 3 ซึ่งเป็นอันที่เล็กที่สุด ไม่มีโครงสร้างของท่อปัสสาวะอยู่ภายใน
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายการมีอวัยวะเพศชายงอกหลายอันเช่นนี้ว่า เกิดขึ้นในช่วงพัฒนาอวัยวะสืบพันธุ์ขณะที่ตัวอ่อนทารกยังอยู่ในครรภ์มารดาในช่วงอายุราว 4-7 สัปดาห์แรก
ทีมศีกษาชี้ว่า องคชาตนั้นพัฒนาจากส่วนที่เรียกว่าปุ่มอวัยวะเพศ (Genital tubercule) ซึ่งมีฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) เป็นตัวควบคุม
สำหรับกรณีของชายผู้นี้ คาดว่าความผิดปกติทางพันธุกรรมไปส่งผลต่อตัวรับฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชาย ทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะเพศ โดยทำให้ปุ่มอวัยวะเพศเพิ่มขึ้นเป็น 3 อัน
แต่เดิมท่อปัสสาวะของชายชราพัฒนาขึ้นในส่วนขององคชาตอันที่ 2 แต่เมื่อองคชาตอันที่ 2 หยุดการพัฒนา ท่อปัสสาวะจึงเปลี่ยนเส้นทางและมาพัฒนาในส่วนขององคชาตหลักแทน
ด้านองคชาตอันที่ 3 นั้นคือส่วนที่เหลือของปุ่มอวัยวะเพศที่งอกออกมาเกินจำนวนปกติ
ทีมนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่มีองคชาตหลายอันจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเพิ่มขึ้น รวมถึงประสบปัญหาเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ มีอาการปัสสาวะอุดตัน และกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
โดยปกติแล้วแพทย์จะตัดองคชาตที่งอกเกินจำนวนออกไป เมื่อพบความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด แต่ดูเหมือนว่าชายวัย 78 ปีผู้นี้จะไม่รู้ตัวเลยว่า เขามีอวัยวะเพศเกินมา 2 อันเพราะลักษณะภายนอกขององคชาตหลักของเขาดูปกติมาก
บทวิจัยนี้สรุปว่า หากผู้ป่วยที่มีองคชาตหลายอันไม่แสดงอาการผิดปกติหรือมีอาการป่วยเพิ่มเติม องคชาติที่หลบในอยู่ก็อาจไม่แสดงตัวออกมา ทำให้ไม่มีการตรวจพบ จึงเป็นไปได้ว่าในโลกนี้อาจจะมีจำนวนผู้ป่วยที่มีองคชาตงอกเกินมาหลายอันอยู่มากกว่าที่คาดคิดเอาไว้
ทีมวิจัยชี้ว่า การศึกษาและรับรู้ถึงความผิดปกติขององคชาตที่งอกเกินมาหลายอันหรือโพลีฟาลเลีย (Polyphallia) นับว่าสำคัญมากสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะในการวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะ รวมทั้งเวลาใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น สายสวนปัสสาวะ, การเอกซเรย์และผ่าตัดระบบทางเดินปัสสาวะ
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, jmedicalcasereports.biomedcentral.com
