เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 ต.ค. 67 น.ส.สมใจ ศิริประไพ อายุ 63 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมทั้งให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ ได้มีการแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายธงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี อดีตสามีที่เคยอยู่กินด้วยกัน (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) จนมีลูกชายและลูกสาว 2 คน และได้เลิกลากันไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ขณะที่ลูกทั้งสองยังเล็ก ตนหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูลูกจนจบมหาวิทยาลัยและมีครอบครัวไปหมดแล้ว ซึ่งตนเองอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ย่านถนนประชาราษฎร์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

น.ส.สมใจ เล่าต่อว่า แต่แล้วจู่ๆ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา นายธงชัย อดีตสามี ได้ขับรถ Toyota สีบรอนซ์เงิน ซึ่งตนเป็นคนออกรถป้ายแดงให้ในขณะนั้น และซื้อด้วยเงินสดเพื่อให้ไปวิ่งแท็กซี่ขับทำมาหากิน แต่ตลอดเวลานายธงชัย กลับไม่เคยเหลียวแลครอบครัว ปล่อยให้ตนกับลูกสาวและลูกชายอยู่กันอย่างหวาดกลัว เนื่องจากอดีตสามีมักทำร้ายลูกทั้งสองคน อยู่เป็นประจำ ตนจึงได้บอกเลิกราแยกทางกันไปเมื่อ 18 ปี ที่แล้ว

น.ส.สมใจ เล่าอีกว่า นายธงชัยได้ขับรถ Toyota มาจอดริมรั้วข้างบ้านตน และอาศัยกินนอนในรถทำแบบนี้มา 2 เดือนแล้ว ในแต่ละวันถ้าเขาจะอาบน้ำเขาก็จะปีนรั้วเข้ามาในบ้าน วันละหลายรอบทั้งกลางวันและกลางคืน โดยใช้สายยางบริเวณลานจอดรถอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ตนเคยบอกเขาแล้วว่าอย่าทำแบบนี้มันผิดกฎหมายที่ปีนเข้ามาในบ้าน แต่เขาก็ไม่ยอม พูดจาข่มขู่ ตนมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี หลายครั้งแล้ว จนเจ้าหน้าที่สายตรวจมาแจ้งให้เขาออกจากหมู่บ้านไป แต่เขาก็ไม่ยอม ทางพนักงานสอบสวนได้มีหมายเรียก ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 แต่ก็ไม่สนใจจนกระทั่งจะมีหมายจับเขาก็ไม่กลัว ยังคงจอดรถอยู่ข้างริมรั้วบ้านตน และปีนเข้าออกวันละ 4-5 รอบเพื่อเข้าไปอาบน้ำ จนตนไม่กล้าอยู่บ้านมา 2 เดือนแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 2 นาย และผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ พบนายธงชัย อยู่ในรถเก๋ง คันดังกล่าว โดยท้ายรถริมกำแพง นายธงชัย ได้ตากเสื้อผ้าวางผึ่งลมผึ่งแดดไว้จำนวนหลายชุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ รวมทั้งผู้สื่อข่าว พยายามเกลี้ยกล่อมเรียกให้นายธงชัย ออกมาจากรถ แต่ก็ไม่ยอม ตะโกนโวยวายส่งเสียงดังอยู่ในรถ จนตำรวจและนักข่าวพยายามอธิบายเหตุผลว่าการทำแบบนี้เป็นการผิดกฎหมาย และขอเชิญตัวไปที่โรงพัก แต่นายธงชัย ก็ยังไม่ยอม ทางผู้สื่อข่าวเองจึงถามว่าทำแบบนี้ต้องการอะไร นายธงชัย จึงบอกว่าอยากเจอหน้าลูกสาวลูกชาย เพื่อยืนยันว่าทั้งสองคนยังสบายดีหรือเปล่า

ทางผู้สื่อข่าวเอง จึงประสานพูดคุยกับ น.ส.สมใจ อดีตภรรยา เพื่อขอให้ลูกสาวกับลูกชายทั้ง 2 คน มาเจอหน้านายธงชัย สักครั้ง โดยนายธงชัย รับปากว่าหากเจอหน้าแล้วก็จะนำรถออกจากหมู่บ้านทันที ซึ่งต่อมาทั้งลูกชายและลูกสาวของนายธงชัย ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี แล้วพูดจากับนายธงชัย ด้วยเหตุผล ขอให้พ่อ อย่าทำแบบนี้ เพราะเลิกรากับแม่ไปนานหลายสิบปีแล้ว ต่างคนควรต่างอยู่ และไม่ต้องห่วงตนทั้งสองเพราะตนทั้งสองคนก็แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ขอให้พ่ออยู่ส่วนพ่อ แม่อยู่ส่วนแม่ อย่าทำแบบนี้เพราะมันไม่ถูกต้องและผิดกฎหมาย นายธงชัยจึงยอมและรับปากว่า จะไม่มาคุกคามหรือรังควานอดีตภรรยา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้นายธงชัย เดินทางกลับไปนำรถเพื่อขับออกจากหมู่บ้าน ท่ามกลางความดีใจและโล่งใจของอดีตภรรยาและลูกทั้งสองคน.