เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 67 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลิปเสียงนักการเมืองเรียกรับผลประโยชน์จากผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป ว่า พรรคพลังประชารัฐเราก็มีความห่วงใยต่อกรณีดังกล่าวนี้ ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายทุกคน และขอให้ทุกคนได้รับเงินคืน รวมถึงผู้ที่กระทำความผิดต้องได้รับการลงโทษ
เมื่อถามว่า มีการพาดพิงถึงคลิปเสียง ซึ่งมีการระบุว่าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เราต้องตรวจสอบว่าเป็นเสียงใคร เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ทั้งจากคนที่อัดคลิป และคนที่ปล่อยคลิปออกมา สิ่งที่สำคัญที่สุดต้องพิจารณาว่าคลิปเสียงดังกล่าวอยู่ในช่วงเวลาใด เป็นช่วงที่บุคคลดังกล่าวมีตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ หรือเป็นแค่บุคคลธรรมดาที่ไปหลอกลวง ต้มตุ๋น ซึ่งความผิดนั้นมีความแตกต่างกัน โดยจะต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง
เมื่อถามว่า มีการระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 นายชัยวุฒิกล่าวว่า ต้องไปถามคุณพอลว่าได้จ่ายให้กับใครไปบ้าง วันนี้ต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน ตนเองไม่อยากให้มีการรีบฟันธงว่าใครถูกหรือผิด ต้องพิจารณาว่า ผู้บริหารของดิไอคอนกรุ๊ปจ่ายให้ใครไปบ้าง และบุคคลดังกล่าวได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการเอื้อประโยชน์หรือไม่อย่างไร
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนเองเป็นห่วง เพราะว่ากฎหมายทั้งเรื่องของการขายตรง และการฉ้อโกงประชาชน มีมานาน โดยเจ้าหน้าที่จะต้องป้องกันและปราบปรามผู้ที่กระทำความผิด โดยเฉพาะเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นหลายปีก็น่าสงสัยผู้ที่มีอำนาจได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาหรือไม่
เมื่อถามว่า ได้มีการต่อสายไปยังคนในพรรคของเราหรือไม่ ว่าใช่คนในเสียงหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ เพราะยังไม่มีมีการพูดคุยกัน ขณะเดียวกันตนเองก็ไม่ทราบว่าขณะนี้บุคคลดังกล่าวอยู่ประเทศไทยหรือต่างประเทศ ทั้งนี้ตนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะใช่ช่วงหลังที่เข้ามาช่วยงานพรรค ส่วนในอดีตสมาชิกคนดังกล่าวทำอะไรมาบ้าง เราไม่ทราบ เราต้องมีการตรวจสอบว่าทำผิดจริงหรือไม่ ก็ขอความเป็นธรรมให้เขาด้วย และขอความเป็นธรรมให้พรรคพลังประชารัฐด้วย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค เป็นเรื่องส่วนบุคคล เป็นการกระทำที่ก่อนเข้ามาอยู่ที่พรรค
เมื่อถามว่า เสียงที่ถูกปล่อยออกมาเป็นการถูกเอาคืนกรณียื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย นายชัยวุฒิกล่าวว่า การตรวจสอบนักการเมืองเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ใครทำไม่ดีต้องถูกลงโทษ การที่เราตรวจสอบพรรคเพื่อไทย หรือตรวจสอบนายทักษิณ เป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ หากเขาทำไม่ถูกต้อง ก็เป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องลงโทษหรือตัดสินเขา และยืนยันว่าไม่ใช่การแก้แค้นกัน
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐ จะมีการตรวจสอบเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า แน่นอน เราไม่ต้องการให้มีคนไม่ดีอยู่ในพรรคอยู่แล้ว ก็ต้องตรวจสอบว่ามีความผิดมากน้อยแค่ไหน และจะต้องดำเนินการตามข้อบังคับ โดยขอรอดูข้อเท็จจริงก่อน
เมื่อถามว่า หากมีมลทินจริงสามารถขับพ้นพรรคได้ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า โดยหลักการคนที่ไม่ดี หรือไม่มีจริยธรรมหรือทุจริตต่อหน้าที่ ทำงานการเมืองไม่ได้อยู่แล้ว ก็ขอให้ความมั่นใจกับทุกคนว่าพรรคก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเรื่องดังกล่าวนี้ และขอให้ข้อเท็จจริงนั้นยุติก่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าเบี่ยงประเด็น การติดสินบนหรือการเรียกรับผลประโยชน์มันมีอยู่ทุกวงการ แต่อยากให้ดูที่ข้อเท็จจริงว่าใครทำผิด หรือใครที่ปล่อยประละเลยอย่างไร เมื่อมีคนมาร้องเรียนแล้ว สคบ. หรือเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการ และหลอกลวงประชาชนมาเป็นเวลาระยะเวลาหลายปี ผู้ประกอบการเหล่าบอสต่างๆ มีความผิดจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ประชาชนได้คลายความวิตกกังวลและให้ความเชื่อมั่นกับกระบวนการยุติธรรมของเราต่อไป
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทราบเรื่องแล้วหรือยัง นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนเองยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่คิดว่าท่านทราบอยู่แล้ว.