ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดปราโมทย์ ต.บ้านปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม พระครูปราโมทย์ ปัญญาวัฒน์ (บุญเลิศ เตชปุญฺโญ) เจ้าคณะอำเภอบางคนที เจ้าอาวาสวัดปราโมทย์ ได้จัดงานประจำปีปิดทองหลวงพ่อโต และเทศกาลออกพรรษาขึ้นในวันที่ 14-18 ต.ค. 67 รวม 5 วัน ในงานทางวัดมอบให้ลูกศิษย์ที่เป็นจิตอาสาเกือบร้อยคน ร่วมกันทำขนมไทยโบราณ เช่น ลูกชุบหรือขนมเม็ดขนุน ทองหยอด ฝอยทอง และสังขยามะพร้าวอ่อน โดยมีทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมาต่อแถวเข้าคิวยืนรอกันเป็นจำนวนมากตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจดเย็น ทำให้งานนี้ต้องใช้มะพร้าวน้ำหอมวันละประมาณ 4,000 ลูก ใช้ไข่เป็ดวันละกว่า 10,000 ฟอง เพื่อทำขนมดังกล่าว นำรายได้เข้าวัดปีละกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งจัดติดต่อกันมากว่า 20 ปีแล้ว
สำหรับการทำสังขยามะพร้าวอ่อน ของวัดปราโมทย์ เริ่มจากการนำมะพร้าวน้ำหอมลูกขนาดกลางๆ อายุ 25-30 วัน เนื่องจากเนื้อมะพร้าวจะกำลังพอดี ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป มาปอกเปลือกแล้วเฉาะด้านบนเอาน้ำมะพร้าวออกให้เหลือแต่เนื้อมะพร้าว แล้วนำสังขยาที่ผสมตามสูตรของวัดปราโมทย์ ซึ่งก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงแค่ไข่ขาว 80 เปอร์เซ็นต์ ไข่แดง 20 เปอร์เซนต์ แต่ต้องเป็นไข่เป็ดเท่านั้น มาปั่นกับหัวกะทิ และน้ำตาลมะพร้าวแท้แม่กลองให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่ลูกมะพร้าว แล้วใส่ซึ้งนึ่งไฟแรงๆ นาน 1 ชั่วโมง กับอีก 10 นาที ก็สุกรับประทานได้
ส่วนการนึ่งสังขยามะพร้าวอ่อนของวัดปราโมทย์นั้น เนื่องจากตลอดทั้งวันมีลูกค้ามารอคอยเป็นจำนวนมาก ใครไม่ทราบก็อาจเข้าใจว่ามารอรับแจก เพราะแถวยาวเป็นร้อยเมตร จึงต้องใช้ซึ้งใหญ่ๆ ถึง 5 ชุด ชุดละ 5 ชั้น แต่ละชั้นใส่ลูกมะพร้าวสังขยานึ่งได้ประมาณ 18-20 ลูก ใช้เตาฟืนไฟแรงๆ เริ่มเปิดเตาตั้งแต่ 8 โมงเช้า เพราะเริ่มมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมาเข้าแถวต่อคิวยืนรอแล้ว ราคาขายเพียงลูกละ 50 บาท และจำกัดให้ซื้อได้คนละไม่เกิน 6 ลูก เพื่อจะได้รับประทานกันอย่างทั่วถึง
สำหรับขนมไทยโบราณ และสังขยามะพร้าวอ่อนของวัดปราโมทย์ รสชาติไม่หวานจัด มีกลิ่นหอมของมะพร้าวน้ำหอม รสมัน อร่อย ทุกปีทางวัดต้องใช้มะพร้าวน้ำหอมประมาณ 2 หมื่นลูก ซึ่งนอกจากจะช่วยเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวระบายผลผลิตแล้ว ยังมีรายได้เข้าวัดปราโมทย์ ไม่น้อยกว่าปีละ 1 ล้านบาท จึงเป็นที่มาที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่า “สังขยาเงินล้าน” นั่นเอง