จากกรณี “หนุ่ม กรรชัย” พิธีกรและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องธุรกิจชื่อดัง “ดิไอคอนกรุ๊ป” โดยมี “บอสพอล” เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอ อาณาจักรธุรกิจออนไลน์ ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม อีกทั้งยังมีดาราชื่อดังเป็นทั้งพรีเซ็นเตอร์ รวมทั้งมีชื่อเป็นผู้บริหารในบริษัท ก่อนที่จะมีประเด็น หลังมีผู้เสียหายออกมาอ้างว่า ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน สูญเสียเงินไปอย่างมากมาย แต่ไม่ได้ผลตอบแทนอย่างที่สัญญาไว้ นอกจากนี้ บอสพอล วรัตน์พล ยังได้เข้าไปให้ปากคำกับ บก.ปคบ. และยังออกมาเคลื่อนไหวว่า บอกน่าสนใจไปออกโหนกระแส จนในที่สุด “บอสพอล” ก็ได้มานั่งในรายการโหนกระแส และเผชิญหน้ากับผู้เสียหายหลายคน ซึ่งเปิดรายการมา บอสพอลก็ร้องไห้ทันที จน หนุ่ม กรรชัย ต้องบอกให้ตั้งสติ เพื่อให้รายการสามารถดำเนินรายการได้ ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
เปิดภาพ ‘บอสพอล’ สะอื้นไห้ ก่อนออกโหนกระแส ขอความเห็นใจเหล่าผู้เสียหาย

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการโหนกระแส โดยพิธีกร “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้มีการพูดถึงความเสียหายของการร่วมทำธุรกิจกับ The iCon Group (ดิไอคอนกรุ๊ป) โดยมีการเชิญ “บอสพอล วรัตน์พล” เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอ อาณาจักรธุรกิจออนไลน์ ดิไอคอนกรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ได้เดินทางมาเผชิญหน้ากับผู้เสียหาย และญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งก่อนเริ่มรายการ บอสพอล ระบุ อยากมาออกรายการในโอกาสที่ยังมีอยู่ และได้หลั่งน้ำตาตลอดรายการ

อย่างไรก็ตาม “หนุ่ม กรรชัย” ได้นำญาติผู้เสียหาย หลังตกเป็นเหยื่อดิไอคอนกรุ๊ป ที่ยืมเงินยายมาร่วมลงทุนกับดิไอคอนกรุ๊ป แต่กลับขายไม่ได้ ไม่มีเงินคืนญาติ จนวิดีโอคอลมา กินยาฆ่าหญ้าเสียชีวิตไปเมื่อปี 2565 เพื่อมาเล่าเหตุการณ์ให้บอสพอลฟัง หลังจากนั้น นายบุญมี ซึ่งเป็นแม่ข่ายได้โทรศัพท์มาหาน้องสาวผู้เสียหาย ซึ่งได้คุยถึงเรื่องเงินที่ยังค้างอยู่ แต่กลับบอกว่าคืนไม่ได้ ให้มาเป็นลูกข่ายแทน โดยให้สวมสิทธิของพี่ แล้วมาซื้อของอีกครั้ง

หลังจากนั้น “หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ผมถามจริงๆ ทำไมถึงกล้ามา? บอสพอล กล่าวว่า “จริงๆ กลัว ไม่ได้อยากมา แต่อยากมาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า คุณเคยรู้หรือไม่ว่ามีผู้เสียหายไหม? บอสพอล กล่าวว่า “ไม่ทราบ มีเรื่องร้องเรียนจากไอคอนเฮลธ์สายตรงเรื่องธุรกิจ แต่ไม่รู้เรื่องว่ามีเรื่องถึงขั้นคนฆ่าตัวตาย ผมขอโทษ ถ้าผมรู้ จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องนี้ ผมขอโทษครับ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า วันนี้ได้เห็นผู้เสียหายแล้วรู้สึกอย่างไร และเรื่องราวนี้คุณจะทำอย่างไรต่อไปกับประเด็นข่าวที่เกิดขึ้น โดยคุณพอลต้องเข้าใจก่อนว่า เรื่องราวทั้งหมดมี 2 เส้น เส้นหนึ่งเป็นข้อกฎหมาย อีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องกระแสสังคม คุณจะทำอย่างไรกับคนเหล่านั้น? บอสพอล กล่าวว่า “รู้สึกเสียใจมาก แต่ละคนได้รับผลกระทับต่อชีวิตหนักมาก ถึงขั้นเสียชีวิต ผมก็จะเยียวยา และผมจะรับผิดชอบ โดยวิธีจะรับผิดชอบ ให้เป็นไปตามที่เหมาะสมกับทุกคน ต้องวิเคราะห์กลุ่มไหนเสียหายมาก เสียหายน้อย และกลุ่มเปราะบางที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่ต้องรีบเข้าช่วยเหลือ แต่ถ้าในเรื่องภาพใหญ่ จากที่ผมได้รับฟัง ผมพูดคำเดียว ผมจะพยายามรับผิดชอบให้เต็มที่ที่สุด “คำว่าเต็มที่ที่สุด” คือ จนกว่าผมจะไม่มีอะไรเหลือ หรือจนกว่าผมจะตาย ก็แค่ 2 อย่างนี้ เพื่อบรรเทาความเสียหาย เพื่อความยุติธรรมสำหรับภายใต้กฎหมาย นี่คือสิ่งที่ตั้งใจ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า คุณพูดเหมือนเตรียมตัวอะไรบางอย่าง คุณพูดเหมือนจะไม่เหลืออะไรแล้วเหรอ หรือรู้สึกจะไปถึงขั้นนั้นหรือ?
บอสพอล กล่าวว่า “ไม่ได้เตรียมตัวอะไรทั้งสิ้นครับ การที่ผมได้เข้ามานั่งรายการนี้ ผมก็ไม่ได้เตรียมตัวครับ แต่ผมเตรียมที่จะทำทุกอย่างที่จะให้ทุกคนได้บรรเทาความเสียหาย จนเขารู้สึกยุติธรรมสำหรับเขา และยุติธรรมสำหรับกลุ่มคนทุกคนในนี้ด้วย และก็ยุติธรรมอยู่ภายใต้กฎหมายด้วยครับ แต่ว่าถ้าช่วยเป็นเงินเท่าไหร่ ผมยืนยันตรงนี้ก่อนว่า “ผมจะช่วยจนกว่าบาทสุดท้ายครับ” ถ้าผมยังเหลือชีวิตอยู่ ให้ผมไปทำงานอะไรและมาช่วย ผมก็จะช่วยครับ

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า อันนี้คือสิ่งที่คุณตั้งใจเอาไว้? บอสพอล กล่าวว่า “ครับ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า คุณรู้จักแม่ตั๊ก หรือเคยเห็นแม่ตั๊กร้านทองหรือไม่ เพราะแม่ตั๊กเขาก็เอาเงินคืน ขอโทษนะไม่ได้ว่าหรือแช่งนะ ถ้าวันนี้คุณต้องเข้าไปอยู่ข้างๆ แม่ตั๊กข้างใน และใครจะจัดการเงินคืนผู้เสียหาย เพราะเราไม่รู้ว่า พรุ่งนี้อะไรจะเกิดขึ้น คุณอาจจะถูกแจ้งข้อหาฝากขัง ไม่ให้ประกันตัว คุณจะทำอย่างไรกับผู้เสียหาย? บอสพอล กล่าวว่า “ถูกฟรีซกระบวนการของรัฐตามกฎหมายถูกหรือไม่ครับ เพราะฉะนั้นผมจะทำจนวินาทีสุดท้ายที่ผมทำได้ครับ แต่ถ้ามันถูกฟรีซแล้วจากรัฐ ที่ทำตามกฎหมาย ตรงนั้นผมเชื่อว่า รัฐเขามีกระบวนการและวิธีการจะมาเยียวยาต่อ เพราะทรัพย์สินอยู่ตรงนั้นแหละครับ และไม่ได้หายไปไหน”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า คุณพอลสิ่งที่ผมถามคุณไป ที่คุณตอบเหมือนคุณยอมแพ้แล้วนะ? บอสพอล กล่าวว่า “ผมยอมแพ้ตั้งแต่มารายการพี่แล้วครับ ผมยอมแพ้มานานแล้วครับ ผมไม่รู้ชีวิตผมสู้อะไรอยู่ โดยความหมายทุกคำที่ผมพูด ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ พี่หนุ่มสอนผมก่อนเข้าในรายการนะว่า “พอลพูดแต่ความจริงนะ” พอผมพูดความจริง ก็ยังเป็นแบบนี้ ผมไม่กล้าพูดแล้ว ผมพูดความจริงก็หมอบ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ก่อนที่เข้ารายการ ผมบอก “คุณพอล อะไรจริงก็พูดจริง อะไรไม่จริงก็บอกไปนะ ผิดถูกว่ากันไปถูกไหมครับ” แต่สิ่งที่ผมถามพอล ยังมีคำถามเยอะแยะมากมายเลยนะ พอลก็พร้อมที่จะตอบถูกมั้ย? บอสพอล กล่าวว่า “ผมไม่ได้อยากมาอยู่แล้วครับ ผมพร้อมครับ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ต้องการมาชี้แจงข้อเท็จจริง? บอสพอล กล่าวว่า “ผมไม่มีแผนอะไรกับชีวิตแล้วครับ ผมไม่รู้ผมสู้อยู่กับอะไรครับ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ทำไมถึงสร้าง “ดิไอคอนกรุ๊ป” ขึ้นมา? บอสพอล กล่าวว่า “ในช่วงที่โลกเปลี่ยนผ่านมาเป็นเรื่องของการขายของออนไลน์เยอะขึ้น ผมก็ได้เห็นธุรกิจการขายออนไลน์ ที่มันน่าสนใจ ก็จะมีหลายๆ แบรนด์ที่เขาทำ ผมก็เลยศึกษาดู เราก็เลยอยากจะทำ และพัฒนาให้มีระบบในการซัพพอร์ตให้ดีขึ้น”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า มันคือธุรกิจอะไร คุณจดเป็นอะไร? บอสพอล กล่าวว่า “การตลาดแบบตรงครับ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า คุณไปจดกับ สคบ. ถูกมั้ยครับ เป็นการตลาดแบบตรง บอสพอล กล่าวว่า “ครับ คือผมเข้าไปจดโดยการไปให้ทาง สคบ. พิจารณาประเภทธุรกิจ และเมื่อพิจารณาแล้ว ทาง สคบ. บอกเป็นธุรกิจแบบตรง”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า “ดิไอคอนกรุ๊ป ทำการค้าแบบไหน ทำแบบขายตรง หรือตลาดแบบตรง? บอสพอล กล่าวว่า “ก็ต้องทำที่จดมา ตลาดแบบตรง ก็คือตลาดแบบตรง”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ตลาดแบบตรงคือขายแบบไหน คุณรู้หรือไม่? บอสพอล กล่าวว่า “ขายผ่านทางออนไลน์ แต่สำหรับผมขายปลีก และขายส่งให้กับตัวแทน แต่ทีนี้ตัวแทนรับสินค้าไปแล้ว เขาจะไปขายทางช่องทางไหน จะเป็นหน้าร้าน หรือช่องทางออนไลน์ เขาก็สามารถเลือกไปขายได้ตามปกติ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า คุณจด สคบ. ถูกต้องทุกอย่าง การขายตลาดแบบตรง แล้วหลังจากนั้น วิธีการขายบนพื้นฐานของอะไร มีบอสประมาณทั้งหมดกี่คน บอสพอล กล่าวว่า “ตอนแรกก็เยอะครับ เพราะบริษัทเปิดรับตัวแทนจำหน่าย ก็จะมีคนที่เข้ามาสนใจ ก็มาในช่วงแรงๆ เลย ประมาณ 20 คน สุดท้ายเหลือ 10 คน”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า บอสทำหน้าที่อะไรครับ? บอสพอล กล่าวว่า “เป็นตัวแทนจำหน่ายติดบริษัท จากที่ผมขายไปแล้ว ก็จะเป็นแต่ละท่านที่จะต้องไปดูแล จัดการแต่ละทีม”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า คือคุณจะบอกว่าคุณเป็นบิ๊กบอสตามที่ปรากฏ ถูกมั้ยครับ? บอสพอล กล่าวว่า “จริงๆ คำว่าบิ๊กบอสเป็นคำเรียกที่เขาให้เกียรตินะครับ แต่ความหมายที่แท้จริง คือ บริษัทนั่นแหละครับ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ตอนนี้มี 10 คน บอสปัน, บอสสวย, บอสวิน, บอสหมอเอก, บอสโซดากับบอสป๊อป, บอสทอมมี่, บอสแม่ต่าย, บอสอ๊อฟกับบอสจอย, บอสแม่หญิง และบอสโอม หลังจากบอสรองลงมาคือแม่ข่ายถูกไหมครับ? บอสพอล กล่าวว่า “แม่ข่ายสำหรับผมคือตัวแทนจำหน่ายในทีมของบอสนั้นๆ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ตัวบอส 10 คน จะมีสายของเขาลงไปถูกมั้ย และระบบของคุณเป็นอย่างไร? บอสพอล กล่าวว่า “โครงสร้างขององค์กรจะเป็นแบบนี้ และเวลาเปิดบิลก็จะเปิดที่บริษัท แต่แม่ทีมเป็นคนดูแล หลังจากที่มีการสั่งซื้อ บริษัทจะต้องมีการเตรียมสินค้าก่อนหน้า ทีนี้จะส่งที่ไหนก็แล้วแต่”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ปีหนึ่งขายเยอะมั้ย บอสพอล กล่าวว่า “ปีแรกก็ยังน้อย แต่ก็จะขายสินค้าได้มากขึ้น เพราะปีแรกผมมีสินค้าเป็นคอลลาเจน ปีที่ 2 เป็นสินค้ากาแฟ และปัจจุบันมีสินค้า 14 ตัว”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า คุณมียูสเซอร์ของ “ดิไอคอนกรุ๊ป” กี่ยูสเซอร์ บอสพอล กล่าวว่า “มีประมาณ 300,000-400,000 คน และจะเริ่มจากการที่ซื้อของไปขาย ที่สิ่งที่ผมบอกคือ ให้คุณลองก่อน ให้เห็นผลก่อน เพราะเวลาแนะนำสินค้าจะได้ออกมาจากความรู้สึก”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า บอส 10 คน ได้ค่าตอบแทนอย่างไร? บอสพอล กล่าวว่า “ได้ค่าตอบแทนจากการขาย ถ้าขายได้เยอะ ได้กำไรเยอะ 10 ท่านจะได้รายได้ต่างกัน”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า บางคนขับรถเฟอร์รารี ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ บอสพอล กล่าวว่า “กว่าที่เขาจะได้มา ต้องฝึก ต้องขายและพัฒนาตัวเอง กว่าจะได้แบบนั้นต้องใช้เวลา สำหรับคนที่ตั้งใจทำจริงๆ เขาก็มีสิทธิที่จะได้แบบนั้น แต่ไม่ใช่ได้ทุกคน”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า เหล่านักแสดงเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไร? บอสพอล กล่าวว่า “เป็นพรีเซ็นเตอร์พรีเซนต์สินค้า ดูคาแรกเตอร์ของดาราว่าเหมาะกับสินค้าตัวไหน และติดต่อเข้าไปถามว่าสนใจหรือไม่ โดยในสัญญาไม่มีการชวนคนให้ร่วมลงทุน”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ก่อนหน้านี้มีประเด็นเรื่องคลิปเสียง ผมอยากรู้เป็นเสียงคุณหรือเปล่า? บอสพอล กล่าวว่า “เป็นเสียงพอลครับ ถ้าสำหรับคลิปนี้ ตอนนั้นผมถูกตีโดยนักร้อง เขาจะร้องเรียนผมแบบนี้ หมายถึงพี่ช่วยผมถูกตีในเรื่องนี้ก่อน เราพยายามหาที่พึ่ง เขาก็เลยอยากจะช่วย แต่ผมก็ไม่อยากขอความช่วยเหลือใครฟรีๆ”

ทั้งนี้ “บอสพอล วรัตน์พล” จะตั้งศูนย์เยียวยาที่บริษัท แต่จะพิจาณาแต่ละบุคคลว่าเดือดร้อนเสียหายในลักษณะใด ตรงนั้นจะเป็นหลักเกณฑ์การพิจารณาช่วยก่อน ช่วยหลัง

ขอบคุณข้อมูลภาพจากรายการ : โหนกระแส