เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ในเฟซบุุ๊กเพจ “ทนายคลายทุกข์” ได้มีการไลฟ์สดพูดคุยถึงเรื่องคดี “ดิไอคอน กรุ๊ป” โดย “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ซึ่งได้กล่าวถึงธุรกิจของบริษัทที่มีลักษณะคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ มีกลุ่มดาราพิธีกรและนักแสดง ตลอดจนบุคคลที่มีชื่อเสียงเขาไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวจำนวนมาก สุ่มเสี่ยงจะติดคุกเพราะทำผิดกฎหมาย แม้ไปออกรายการโหนกระแสแล้วก็ตาม ก็ใช่ว่าจะรอดตัว เพราะที่ผ่านมาคนไปออกรายการโหนกระแสแล้ว ติดคุกไปหลายคนก็มีอยู่มากมาย ยกตัวอย่าง แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ เป็นต้น ดังนั้นคนที่ยอมรับว่าเป็น แม่ทีม ก็ใช่ว่าจะรอด ขณะที่เหล่าบอสคนสำคัญ ล่าสุดตำรวจออกมาระบุว่า ตนนี้กลายเป็นผู้ต้องหาไปแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น

“ทนายเดชา” ยังกล่าวถึงหน่วยงานต้นเรื่องอย่าง “สคบ.” ซึ่งควรจะนำแนวทางของ อดีตเลขาธิการสคบ. มาพิจารณาว่าธุรกิจดังกล่าวลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ มีคนร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 65 แต่กลับไปตีความว่า คนร้องเรียนไม่ใช่ผู้บริโภค แต่เป็นผู้ทำธุรกิจร่วม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็น่าจะประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบอีกทีตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาจนถึงปี 67 จนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และอยากให้ทางรัฐบาล รวมทั้ง นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” ออกมาคลื่อนไหวดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย

นอกจากนี้ในไลฟ์สดดังกล่าว ยังมีช่วงหนึ่งที่ “ทนายเดชา” ระบุว่า จะเดินหน้าเอาผิด “พระสงฆ์” รูปหนึ่ง ที่มีคลิปออกตัวเชียร์ “ดิไอคอน กรุ๊ป” ลักษณะชักชวนให้มาร่วมธุรกิจ ทั้งยังบอกด้วยว่า “จะรวยพรุ่งนี้ไปเป็นนักขาย” ซึ่งตรงนี้ทาง “แพรี่ไพรวัลย์” ได้ให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะเป็นพระต้องสอนให้คนไม่โลภ หลังเกิดเรื่องทำไม สำนักพุทธ หน่วยงานเกี่ยวข้องถึงได้เงียบกริบ ไม่ออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ตนจะไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.