นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) ให้สัมภาษณ์”ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” ว่า กำลังเร่งปรับปรุงห้องสุขาภายในอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน ทสภ. 125 จุดรวมประมาณกว่า 1 พันห้องประกอบด้วย อาคารผู้โดยสาร 24 จุด, อาคารเทียบเครื่องบินตามแนวทางเดินทั้งหมด 37 จุด, ห้องพักผู้โดยสาร (holdroom) พื้นที่พักคอยก่อนขึ้นเครื่องบิน 63 จุด และพื้นที่รอขึ้นรถบัสไปต่อเครื่องบิน (busgate) ภายในประเทศ 1 จุด โดยปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งเปลี่ยนกระเบื้อง เปลี่ยนไฟ และเปลี่ยนโถสุขภัณฑ์ ชักโครกใหม่ทั้งหมดเนื่องจากมีสภาพชำรุดทรุดโทรม

 ได้ปรับปรุงห้องสุขาในอาคารผู้โดยสาร 24 จุดประมาณกว่า 100 ห้องเสร็จและเปิดบริการแล้ว ส่วนอาคารเทียบเครื่องบินฯ 37 จุด ปรับปรุงเสร็จ 20 จุด  กำลังปรับปรุง 12 จุด และรอปรับปรุงอีก 5 จุด คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดและเปิดบริการได้ภายในเดือน ธ.ค.67 สำหรับห้องน้ำพื้นที่ busgate 1 จุด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 68ขณะที่ห้องน้ำบริเวณพื้นที่พักคอย 63 จุด ปรับปรุงแล้วเสร็จ 9 จุด เหลือปรับปรุงอีก 54 จุด จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 69

 นายกิตติพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังก่อสร้างห้องน้ำใหม่เพิ่ม 2 จุด บริเวณชั้น 2 ด้านหลังสายพานรับกระเป๋า 22 – 23  จะแล้วเสร็จประมาณเดือน ส.ค.68 และจุดที่ 2 บริเวณชั้น 4 อาคารผู้โดยสารข้างออฟฟิศขายบัตรโดยสารของการบินไทย จะแล้วเสร็จเดือน มี.ค.68 ช่วยทำให้ผู้โดยสารได้รับความพึงพอใจมากขึ้นและมีห้องน้ำให้บริการสะอาด ทันสมัย กลิ่นหอม และเพียงพอต่อผู้ใช้บริการ เป็นอีกหนึ่งการยกระดับการให้บริการของทสภ. ระหว่างปรับปรุงฯ ต้องขออภัยผู้โดยสารด้วยที่อาจไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร จะเร่งให้แล้วเสร็จและเปิดบริการโดยเร็วที่สุด

“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ได้สั่งการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ปรับปรุงความสะอาดของห้องน้ำภายในท่าอากาศยาน โดยเฉพาะ ทสภ. เนื่องจากได้รับข้อร้องเรียนจากผู้โดยสารจำนวนมาก และประสบด้วยตัวเอง ถือเป็นงานเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข นอกจากต้องสะอาดแล้ว กลิ่นต้องหอม และต้องมีห้องน้ำให้บริการเพียงพอด้วย โดยให้ไปดูศูนย์การค้า หรือโรงแรมที่ห้องน้ำมีความสะอาด และกลิ่นหอมว่าทำกันอย่างไรและนำมาปรับเพิ่มเติม ถือเป็นปัญหาใหญ่เพราะการจัดอันดับสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ก็ให้คะแนนในประเด็นห้องน้ำด้วยโดยให้แล้วเสร็จภายในปี 67.