มาแล้วค่า แฟนๆ “บันเทิงเดลินิวส์” ที่น่ารักทุกคน วนมาเจอกันทุกวันศุกร์แบบนี้อีกแล้ว และแน่นอนต้องมาพร้อมกับคอลัมน์บันเทิงสุดฮอตอย่าง “SeoulStation” คอลัมน์ที่พร้อมจะพาแฟนๆ ทุกคนมาอัปเดตเรื่องราวของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีในรอบสัปดาห์แบบจัดเต็มไม่เหมือนใครเลย และที่พลาดไม่ได้คือเหยี่ยวข่าวสาวตัวน้อยผู้แพรวพราว “นูน่าเมี้ยน” ก็มาประจำการเช่นกันค่า และแน่นอนสัปดาห์นี้ก็มาพร้อมกับความพิเศษอีกเช่นเคย ซึ่งจะพลาดการพูดถึงไปไม่ได้เลยกับเวิล์ดทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเพอร์เฟ็คแมน “แทมิน” (TAEMIN) ศิลปินมากเสน่ห์ หนึ่งในสมาชิกวง “SHINee” กับงาน “2024 TAEMIN WORLD TOUR [Ephemeral Gaze] IN BANGKOK” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 ณ ไอเดีย ไลฟ์ บราโว แบงคอก (Idea Live, BRAVO BKK) เป็นการประเดิมฮอลล์ใหม่ที่เริ่ดมาก โดยผู้จัด “ไอมี่ไทยแลนด์” (iMe Thailand) จัดเต็มโปรดักชันสุดยิ่งใหญ่สุดอลังการ และเสิร์ฟความฟินให้เหล่า “แทมเมท” (TAEMate : ชื่อแฟนคลับแทมิน) และ “ชยาวอล” (SHINee World ชื่อแฟนคลับ SHINee) ได้เก็บทุกช่วงเวลาดีๆ เป็นความทรงจำสมการรอคอย

ก่อนจะเข้าสู่โมเมนต์สุดประทับใจ และความทรงจำอันแสนอบอุ่นในเวิล์ดทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของแทมินในครั้งนี้ นูน่าก็อยากพาทุกคนย้อนไปเมื่อ 16 ปีก่อนที่พวกเราได้รู้จักและตกหลุมรัก “มักเน่หัวเห็ด” ที่อ้อนนูน่าในวันนั้นกันอีกครั้งกัน!

แทมินเปิดเส้นทางสู่วงการด้วยการทดลองไปออดิชั่นที่SM Open Audition” ประจำปี 2005 เขาได้รับการยอมรับในทันที และในปี 2008 แทมินได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ SHINee” เมื่ออายุ 14 ปี นอกจากการทำงานในฐานะนักร้องแล้วแทมินยังได้แสดงในละครเรื่อง Tae Hee, Hye Kyo, Ji Hyun” หลายปีต่อมาในเดือนมกราคมปี 2012แทมินได้เข้ามามีส่วนร่วมในฐานะนักพากย์เสียงสำหรับภาพยนตร์แอ็คชั่นเกาหลีที่ชื่อว่า The Outback” ในฐานะตัวละครหลักที่มีชื่อว่า “จอห์นนี่” ซึ่งเป็นหมีโคอาล่าสีขาว พร้อมกับเพื่อนอย่าง “ซันนี่ Girls ‘Generation”

ช่วงเดบิวต์ใหม่ๆ แทมินถูกวางให้เป็นเมนแดนซ์ และมีท่อนร้องที่ค่อนข้างน้อย เนื่องด้วยช่วงอายุที่ยังเด็กเพียง 14 ปี เส้นเสียง และน้ำเสียงที่ยังมีลักษณะคล้ายเด็กจึงไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก แต่แทมินก็ได้ฝึกฝนหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนทักษะการร้องพัฒนาแบบก้าวกระโดด ทำให้องค์ประกอบต่างๆ ในตัวเขาที่ถูกสร้างและพัฒนาขึ้น มันได้หล่อหลอมรวมกลายเป็น “ความสามารถที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ” จนส่งผลให้เขาตัดสินใจก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปอีกขั้น กับการเดินทางสู่เส้นทางใหม่ในฐานะ “ศิลปินเดี่ยว” โดยเขาได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ปี 2014 ด้วยการปล่อยมินิอัลบั้มชุดแรกที่มีชื่อว่า Ace” พร้อมกับได้โชว์ให้เห็นทักษะการแสดงที่โดดเด่นและเสน่ห์ความเป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์ จนได้รับความรักมากมาย รวมถึงสมญานามต่าง ๆ ทั้ง ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม และ ACE แห่งเคป๊อป นอกจากนี้แทมินยังได้รับฉายา Performance King” และ Dancing Machine” อีกด้วย ซึ่งฉายาเหล่านี้การันตีได้จากผลงานที่เขาสร้างสรรค์ และถ่ายทอดมันออกมา รวมไปถึงการได้รับการยกย่องจากคนทั้งในและนอกวงการ ด้วยสไตล์การเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ และใช้เทคนิคในการเต้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเพลงแบบไหนก็สามารถถ่ายทอดออกมาผ่านสีหน้าและท่าทางได้อย่างดีเยี่ยม

นับเป็นเวลากว่า 16 ปีแล้วที่เราได้รู้จักมักเน่ที่เก่งทั้งร้องทั้งเต้นที่หาตัวจับยากในวงการ K-Pop อย่าง “แทมิน” ด้วยอายุเพียงแค่ 14 ปีในวันนั้น ในวันนี้กลับเติบโตเป็น “แทมิน” เพชรเม็ดงามของวงการ K-POP และกลายเป็นโรลโมเดลให้ไอดอลเจนใหม่ ๆ หลายคนอย่างไม่น่าเชื่อ  และไม่ว่าจะเป็นแทมิน เดินบนเส้นทางไหน หรือไม่ว่าจะอยู่ค่ายไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น SM Entertainment หรือ Big Planet Made แฟนๆ ก็คงตามซัพพอร์ตเขาไปตลอด พิสูจน์ได้จากเวิล์ดทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวของแทมินที่แต่ละประเทศเต็มไปด้วยความอบอุ่นของเอาแฟนๆ ที่เข้ามาร้องเพลง เต้น และยืนเชียร์ไปพร้อมกับเขา ร่วมถึงแฟนๆ ชาวไทยที่จัดเต็มไม่น้อยหน้าแต่งตัวจัดเต็มมาชมคอนเสิร์ต พร้อมโชว์ความเป็น “แฟนแทมิน” ในแบบของตัวเองกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้แฟนโปรเจ็กต์หน้าคอนเสิร์ตก็มาเต็มไม่แพ้กัน ทั้งป้าย LED ภาพโปสเตอร์ทั้งด้านนอกห้างและหน้าทางเข้าฮอลล์ ยิ่งใหญ่อลังการสมกับเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวของศิลปินตัวพ่อของวงการเลยจริงๆ

การแสดงคอนเสิร์ตเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่แทมินปลุกพลังของแฟนๆ ใส่เต็มไม่ยั้งทั้งโชว์พลังเสียงสมดีกรีสายโวคอล โชว์สกิลเต้นสมมงสายแดนซ์ตัวพ่อ แถมยังอวดความเซ็กซี่ถูกใจแฟนๆ สุดๆ ตั้งแต่เปิดฉากงาน แทมินก็โชว์ความเฟมัสกับเพลง Deja Vu”, “Guilty” และ Advice” ทำทุกคนในฮอลล์พร้อมใจกันส่งเสียงกรี๊ดต้อนรับและเริ่มปล่อยเอเนอร์จี้ไปพร้อมกัน หลังจากนั้นแทมินกล่าวทักทายทุกคนด้วยความคิดถึงเป็นภาษาไทยว่า “ไม่เจอกันนานเลยนะ คิดถึงผมมั้ยครับ?” แม้จะไม่ได้คล่องแคล่วแต่ก็เห็นถึงความตั้งใจ และเอาใจใส่ทั้งแฟนๆ และพอแฟนๆ ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าคิดถึง เจ้าตัวยิ้มแก้มแทบแตกรีบบอก “ขอบคุณครับ” ทันที เท่านั้นไม่พอ! ยังปากหวานขอบคุณที่แฟนๆ ทำตามคำสัญญาว่าเมื่อไหร่ที่เขากลับมาก็จะมาหาแน่นอน เมื่อทุกคนไม่ลืมสัญญา แทมินก็เลยพาทุกคนไปต่อแบบไม่พัก เพลงGoodbye”, “IDEA:理想”และHeaven” ปลุกพลังความสนุกของแฟนๆ ให้หลงเสน่ห์ของเขาขึ้นอีกล้านเท่า

พาร์ทต่อมา แทมินทำให้ทุกคนเคลิ้บเคลิ้มแค่หลับตาฟังเสียงเพราะก็ละมุนหูทุกจังหวะ กับเพลง I’m Crying”, “Clockwork”, “Not Over You” บรรยากาศยิ่งทวีความสุข เมื่อเพลง The Unknown Sea” และ “Blue” ได้แสงแฟลชจากแฟนๆ ส่องมาถึงแทมิน เพื่อบอกว่าที่ผ่านมาแทมินเป็นแสงสว่างให้ทุกคน วันนี้แฟนๆ ขอเป็นฝ่ายส่องแสงให้เขาบ้างในช่วงเวลาอันล้ำค่าที่ได้อยู่ด้วยกัน ต่อมาก็ถึงเวลาเปลี่ยนฟีล เปลี่ยนมู้ดกระชากใจแฟนคลับ กับเพอร์ฟอร์มดุดันเวทีเดือดเพลงมันส์ๆ แทมินปล่อยพลังที่มีทั้งหมดให้ทุกคนได้เห็นในเพลง G.O.A.T”, “The Rizzness”, “Sexy In The Air” ก่อนเข้าสู่ช่วงสุดท้าย แทมินก็คอนทีนิวความสนุกต่อเนื่อง ขนเพลงฮิตมาให้แฟนๆ ได้ร้องตามกันสุดเสียง ไม่ว่าจะเป็นMOVE”, “WANT”, “Criminal”, “Horizon” เป็นสเตจที่เด็ดและเผ็ดมาก สมฉายาPerformance King!!

มาถึงช่วงที่หลายคนประทับใจกันเป็นอย่าง กับช่วงอังกอร์ที่แฟนๆ แท็กทีมกันทั้งฮอลล์พากันร่วมใจทำโปรเจ็กต์ร้องเพลง Hypnosis” ซึ่งร้องกันพร้อมเพรียงจนจบท่อนได้อย่างสวยงาม  พร้อมตะโกน “อีแทมิน! ซารังเฮ!” เพื่อเรียกให้เขากลับมาหาอีกครั้ง โดนแฟนๆ โชว์พลังรักมากใส่รัวๆ แทมินก็มอบความรักกลับให้ทุกคน ขึ้นเวทีมาหาอีกครั้ง พร้อมกับอังกอร์แบบแดนซ์ยับกับเพลง Danger”, “Crush”, “Say Less” และในงานวันนี้แฟนๆ เซอร์ไพรส์ด้วยโปรเจ็กต์แปลอักษรกล่องไฟบอกรักแทมิน 태민” และป้ายแบนเนอร์เขียนข้อความบอกรักเช่นกันว่า 태국 ? 태민 여기는 태국인가? 태민이 만든 천국인가?” (ประเทศไทย(หัวใจ) แทมิน นี่คือประเทศไทย? หรือสวรรค์ที่แทมินสร้าง?) ทำแทมินแฮปปี้มากถึงมากที่สุด เลยชวนทุกคนร้องเพลง Hypnonis” ด้วยกันอีกครั้ง พร้อมคำสัญญาว่าจะกลับมาหาแฟนๆ ชาวไทยอีกแน่นอน เรียกว่าการกลับมาเจอกันครั้งนี้ทั้งแทมินและแฟนๆ คือเดอะเบสของกันและกันอย่างแท้จริง ทำให้งานจบลงอย่างประทับใจ ซึ่งการแสดงของแทมินในครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นการแสดงคอนเสิร์ต แต่เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความประทับใจ มีครบทั้งเพอร์ฟอร์มานซ์ พลังเสียง ท่าเต้นที่แข็งแรง คมชัด รวมถึงคาริสม่าหรือเสน่ห์ของการเป็นศิลปินที่เจนเวทีมานับสิบๆ ปี ท่ามกลางความรัก และเสียงเชียร์ของแฟนครับที่เปรียบเสมือนคู่หูในทุกช่วงเวลาของโชว์

นูน่าสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า “แทมิน” เป็น “ต้นแบบที่ดี” ให้กับศิลปินรุ่นน้องในยุคปัจจุบันมากมาย ด้วยความสามารถ ประสบการณ์ รวมถึงการที่แทมินเป็นคนไม่เคยคิดที่จะหยุดพัฒนาตัวเองในทุก ๆ ด้านเลย จนกลายเป็นอีกหนึ่ง “เพชรเม็ดงาม” ของวงการ K-Popสมฉายา Performance King” และ Dancing Machine” และกลายเป็นที่รักของใครหลายคนในวงการมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นคนที่จุดประกายความฝัน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นน้องรุ่นใหม่มากมาย

และแม้วันเวลาจะผ่านพ้นไปแค่ไหนจาก “มักเน่หัวเห็ด” จนก้าวสู่ “ศิลปินเดี่ยว” และถูกยกให้เป็น “โรลโมเดล” ของวงการ สิ่งหนึ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลง และยังคงอยู่เลยคือ “คู่หูความสำเร็จ” อย่างเหล่าแฟนคลับ ที่ต่างรัก และส่งเสียงเชียร์แทมินตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงทุกวันนี้ คอยเป็นเชื้อไฟในการเติมพลัง เติมความฝันให้ขับเคลื่อนไปสู่เส้นทางใหม่ๆ ที่ทำให้แทมิน “ส่องสว่าง” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และในอนาคตเชื่อได้เลยว่าไม่ว่าเส้นทางใหม่ของแทมินจะท้าทาย หรือลำบากขนาดไหน บนเส้นทางนั้นจะมี “แทมเมท” และ “ชยาวอล” คอยภูมิใจในมักเน่หัวเห็ดคนนี้เสมอ..


คอลัมน์ “SeoulStation”
โดย “นูน่าเมี้ยน”