กลายเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจติดตามอย่างมากมาย สำหรับเรื่องราวของ มิน-พีชญา วัฒนามนตรี อายุ 35 ปี นักแสดงและนางเอกชื่อดัง ที่ได้นัดหมายสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวชี้แจงปมดราม่าเรื่องธุรกิจดัง ที่กำลังมีประเด็นดราม่าเรื่องลักษณะของธุรกิจที่ทำให้มีผู้เสียหายและสูญเงินจำนวนมาก โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวได้แก่ มิน-พีชญา วัฒนามนตรี, เอส-อนุสิทธิ์ ถึงสุข (ผจก.ส่วนตัว), ทนายชูชาติ กันภัย และทนายนงลักษณ์ แตงเจริญ ร่วมตอบคำถามสื่อมวลชนนั่นเอง

มิน เล่าว่า “เรื่องตำแหน่งที่มินได้รับ เราทราบเรื่องตำแหน่งที่เขาใส่ให้ เขาบอกว่าจะขึ้นตำแหน่งนี้นะเพื่อให้เกียรติเรา ในองค์กรเขาจะเรียกมินว่าบอส เป็นชื่อตำแหน่งที่เขาเรียกให้เรา ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น คำที่เขาเรียกเรากันเอง ตอนทำพีอาร์เรื่องฟีดแบ็กจากลูกค้า ตอนที่อยู่บริษัทมา เรามีโซเชียล แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย ร่วมงานมา ไม่เคยมีคนเอาของไป แล้วขายไม่ได้ แต่ถ้ามินได้ยินแม้แต่คนเดียว มินจะไม่มีทางร่วมงานกับเขาแน่นอน มินโทษตัวเองนะเรื่องนี้ รู้สึกผิดต่อผู้เสียหายมาก ที่ตรวจสอบไม่ดีพอ ทำให้เกิดความเสียหาย แต่วันนี้เมื่อเกิดเหตุขึ้น มินยุติสัญญากับดิไอคอนทุกอย่างเลย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับประชาชนไปมากกว่านี้ค่ะ คลิปที่ออกมาจากบริษัทเขามีสคริปต์ให้ เรื่องบอสคนอื่นๆที่เป็นข่าว มินไม่ได้ติดต่อใครเลย แต่เรื่องเงินจะช่วยผู้เสียหายไหม จะเอาเงินคืนไหม อันนี้มินอยากให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายก่อนได้ไหมคะ เพราะกฎหมายต้องตรวจสอบที่มาของเงินไปตามขั้นตอน เรื่องนี้มินคงไม่โทษใคร(น้ำตาคลอ) สิ่งเดียวที่มินเสียใจ คือประชาชนเดือดร้อนมินโทษตัวเอง ทำให้มีผู้เสียหายขนาดนี้ มินก็อยากจะขอโทษประชาชนด้วยความจริงใจจริงๆ(ยกมือไหว้)มินจะยืนเคียงข้างประชาชน มินจะช่วยทุกสิ่งที่มินทำได้ อยากบอกพี่พอลว่ามินก็ไม่มีอะไรจะพูดค่ะ ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไง มินยินดีเข้าสู่กระบวกการยุติธรรมให้เร็วมากที่สุด ไม่ต้องมาเรียกอะไรทั้งนั้น มินจะเดินเข้าไปเองค่ะ มินไม่หนีไปไหน จะรวบรวมพยานและหลักฐาน หรือทุกอย่างที่มินหารวบรวมได้ไปสู่พนักงานสืบสวนสอบสวน ตัวมินเอง มินอยากเจอผู้เสียหายนะ มินเจออีกทีผ่านการตัดสินในโซเชียลแล้ว ถ้าเขานัดมินเราก็พร้อมเจอเขาค่ะ กับเสียงติที่เข้ามาหามิน มินเข้าใจนะคะ ที่เห็นภาพนั้นออกไป กว่าเรื่องจะเดินทางมาถึงวันนี้ มินเองก็เสียใจ ที่มีคนได้รับความเดือดร้อน อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขอยุติสัญญากับบริษัท ซึ่งมินไม่หนีไปไหนแน่นอน พร้อมรวบรวมหลักฐานให้อยู่แล้ว มินสร้างตัวเองมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยมีข่าวเสียหายเลย บ้านมินทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มินมีทางเลือกนะคะ ถ้าวันนี้มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียว มินก็ไม่ร่วมมือกับเขาแน่นอน”

ทนายชูชาติ เผยว่า “ในสัญญาของคุณมินตำแหน่งคือผู้บริหารจัดการฝ่ายสื่อสารตลาดออนไลน์ หรือสื่อสารองค์กร มันจะมีคำว่าผู้บริหาร กับผู้บริหารจัดการ ต่างกันคือผู้บริหารคือผู้ถือหุ้น เจ้าของ แต่ผู้บริหารจัดการเรียกง่ายๆคือพีอาร์นั่นเอง ขอบเขตของคุณมินสโคปงานคือเพื่อแนะนำประชาสัมพันธ์ โปรโมทสินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ส่วนเรื่องค่าจ้าง คุณมินได้ค่าจ้างไม่เท่ากัน เดือนบางเดือนก็ได้มาก และน้อย อยู่ที่งานว่าเขาไปกี่งานและทำกี่งาน มันได้ตามค่าตัวที่มินไปทำงาน แต่ 1 เดือนของเขา ก็ต้องมีเข้าบริษัท 1 วันอยู่แล้ว สำหรับสัญญา ของเขาเขียนไว้ในหน้าที่คุณมินเพื่อแนะนำสินค้าและโปรโมทของเขา เรื่องเงินมันเป็นรายละเอียด แต่เดี๋ยวเรามีส่งพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว คุณมินไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็นผู้รับจ้าง ไม่ใช่งานที่ต้องได้เงินเดือนประจำ เขาเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ และพีอาร์ ไม่มีบัตรพนักงานแน่นอน สัญญาเริ่มเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ลงนามฝ่ายของคุณมินและผู้ว่าจ้างแค่นั้นครับ 2 ชื่อครับ ซึ่งหมดสัญญาคือ 1 มีนาคม 2567 ตามสัญญาถ้าไม่มีการยุติก็ต่อไป ถ้าฝ่ายใดผิดสัญญาจะมีค่าปรับ 5 แสนบาท เท่าที่ดูตอนนี้นะบริษัทดิไอคอน เราจะทำหนังสือยกเลิกไปที่บริษัท ซึ่งยกเลิกด้วยเหตุผล บริษัทนี้มีธรรมภิบาลเกิดผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งกระทบชื่อเสียงเราจึงขอยกเลิกสัญญาครับ ส่วนเอกสารต่างๆที่เรารวบรวมมา เราเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ทางคุณมินพร้อมจะไปพบพนักงานสอบสวน เราต้องให้เสร็จก่อนคุณมินจะเดินทางไปต่างประเทศ สำหรับเคสของคุณมิน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว ไม่ได้เชิญชวนประชาชนให้เข้ามาอยู่แล้ว ซึ่งจะผิดหรือถูกยังไงแล้วแต่พนักงานสอบสวนอยู่แล้ว เรื่องผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ฯในการนำข้อมูลสู่คอมพิวเตอร์ เราไม่ได้นำเข้าไปนะครับ ส่วนเรื่องจะเอาผิดบริษัทไหม คือคุณมินรับจ้างทำงานก็ต้องมีรายได้แต่ถ้าบริษัททำผิดกฎหมายแล้วระบุว่าเป็นการฉ้ดโกงประชาชน เราพร้อมนำพยานหลักฐานไปเลย แต่การดำเนินคดีบริษัท เรากำลังดูอยู่ว่าคุณมินเสียหายแค่ไหนจากการเป็นผู้รับจ้างบริษัทนี้ อาจจะต้องดำเนินการตามกฎหมายเดี๋ยวดูอีกทีครับ”

เอส เผยว่า “เรื่องโปรดักซ์มินใช้จริงและไม่เป็นอันตรายเลยพูดได้ แต่ในสคริปต์บางเรื่องเขาไม่รู้ แต่ก็ต้องพูดในมุมดี เช่น รักคน มันก็ดูรักคนนะ เงินที่ได้รับได้เท่าค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ สโคปงานที่มอบให้เราเท่ากับค่าตัวพรีเซ็นเตอร์อยู่แล้ว แต่ถ้าได้ทำงานมากขึ้น ก็จะได้มากขึ้น ไม่ได้เงินเดือน ไม่มีคอมมิชชั่น แต่เป็นเงินรายเดือน ไม่ใช่เงินเดือน โดยเวลาเงินที่สรุปว่าทำกี่งานก็รวมๆกันส่งมา”