นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว. ดีอี เปิดเผยว่า  ดีอี โดย สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ บีดีไอ ได้พัฒนาโครงการแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ ( ทราเวล ลิงค์) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว  นำมาแสดงผลข้อมูลเชิงลึกในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์ข้อมูลในการวางแผนนโยบายด้านการท่องเที่ยวของภาครัฐ และการตัดสินใจทางธุรกิจและการตลาดด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยมี 4 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ จ.นครราชสีมา ภูเก็ต พังงา และพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

“โครงการ  ทราเวล ลิงค์  ได้มีการเชื่อมต่อข้อมูลกับด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ ทำให้รับทราบข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ มีจำนวนเท่าใด และร่วมมือกับผู้ให้บริการมือถือ ได้ดำเนินวิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจากข้อมูลเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เพื่อเผยแพร่ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการใช้ผลการวิเคราะห์สำหรับงานด้านนโยบาย ผ่านการแสดงผลในรูปแบบรายงาน ที่จะทำให้เกิดการใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ โดยจะทราบพฤติการณ์การจ่าย ชอบซื้ออะไร ใช้จ่ายที่ไหน เป็นต้น”

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า  ปัจจุบันได้มีการนำข้อมูลเสาสัญญาณมือถือในพื้นที่นครราชสีมาและพังงา  เพื่อมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลประชากรที่เข้ามาในพื้นที่  ช่วยให้วิเคราะห์ผลการกระจายตัว การเดินทาง ระยะเวลาการอยู่หรือพำนักในพื้นที่ การท่องเที่ยวเมืองรอง ของนักท่องเที่ยวที่มาจากจังหวัดอื่น ๆ นอกพื้นที่ที่สนใจได้ในระดับรายวันได้ ก่อนขยายผลไปในระดับชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให่ภาคอุตสาหกรรมฯวางแผนดึงดูดนักท่องเที่ยวได้

นอกจากนี้ทางบีดีไอ ยังได้พัฒนาและขับเคลื่อนแพลตฟอร์มกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างหน่วยงาน ผ่านแพลตฟอร์ม เฮลท์ ลิงค์ ด้วย  เพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชนที่ใช้บริการในหน่วยบริการของกทม. หน่วยบริการในสังกัด สปสช. ร้านยา และคลินิกชุมชน จำนวน 1,564 แห่ง สอดรับกับนโยบายรัฐบาล “30 บาทรักษาทุกที่”  ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวด้วย