เมื่อวันที่ 9 ต.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยผลการจับกุม นายกฤติเดช (สงวนนามสกุล) หรือ “เสี่ยมีน” อายุ 27 ปี ชาวกทม. ผู้ต้องหาตามศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.316/2567 ลงวันที่ 13 มิ.ย.67 ข้อหา “…ฉ้อโกงโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น…” โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. สามารถจับกุมได้เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 8 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ที่สถานีกลางบางซื่อ กทม.

สำหรับพฤติการณ์ของ “เสี่ยมีน” จะสร้างโปรไฟล์ในโลกโซเชียลว่าตัวเองเป็น “ไฮโซ” ทำทีถ่ายรูปกับรถหรูซึ่งไม่ใช่ของตนเอง หรืออวดนาฬิกาเรือนแพง ขณะจับพวงมาลัยรถหรู และอ้างตัวเป็น เป็นเจ้าของเต้นท์รถ, เจ้าของสำนักกฎหมาย หรือเป็นเจ้าของกิจการต่าง ๆ ก่อนจะจีบหญิงสาวฐานะดี พอหญิงสาวหลงคบหาด้วยก็จะขอหยิบยืมเงิน หรือรถยนต์ราคาแพงเอาไปจำนำในตลาดมืดก่อนจะหลบหนีไป ที่ผ่านมาเคยก่อเหตุลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท

นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังมีการ หลอกขายทะเบียนรถ เลขมงคล เลขความหมายดี โดยมีผู้เสียหายบางส่วนไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางพลัด ซึ่งต่อมาคนร้ายรายนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ และจากการตรวจสอบประวัติพบ หมายจับกว่า 9 หมายจับ ในคดีฉ้อโกง และลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2558 ก่อนจะถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา

ในชั้นจับกุม “เสี่ยมีม” ยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่า ตนชอบถ่ายรูปกับรถหรู ประกอบกับตนหน้าตาดี เลยมีผู้หญิงเข้าหาเยอะ เคยคบหาแฟนสาวหลายคนแบบคบซ้อนพร้อมกัน 4-5 คน มีการหยิบยืมเงิน หรือให้เงินใช้กันเป็นเรื่องปกติ เคยได้เงินมากสุดหลักล้านบาท แต่เอาไปเล่นพนันออนไลน์จนหมดแล้ว ส่วนเรื่องขายทะเบียนเลขมงคล ก็ไม่ได้หลอกลวง แต่เพราะผู้เสียหายโอนมัดจำมาแล้ว กลับยกเลิการซื้อ แล้วก็ขอเงินคืน ซึ่งตนได้ใช้เงินไปหมดแล้ว ไม่มีเงินจะคืนให้ผู้เสียหาย ส่วนเรื่องคดีอื่นๆก็เป็นคดีเกี่ยวกับซื้อขายรถ ตนพยายามเคลียร์จนหมดแล้ว พร้อมเปิดหน้าเพื่อให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ต่อมาชุดจับกุมได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ดำเนินคดีตามกฎหมาย.