เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ออกมาตอบโต้นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐที่ออกมาเปิดเผยว่าวันที่ 10 ต.ค. เวลา 07.00 น. จะเป็นจุดเริ่มต้นให้รัฐบาลอาจถึงขั้นล่มสลายว่า เมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย มี สส.ร่วมประชุมเกือบครบ มีเพียง สส.บางส่วนที่ติดภารกิจน้ำท่วม และ สส.ก็ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว และพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีความวิตกกังวลถึงประเด็นดังกล่าว แถมขำด้วยซ้ำ ที่บอกว่าจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และยุบพรรคเพื่อไทย พร้อมกับมองว่า การให้ข่าวดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เหมือนจะไปไล่นายกรัฐมนตรีออก พร้อมกับมองว่าไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้เกิดเรื่องในวันพรุ่งนี้ 

เมื่อถามว่ามีการประเมินหรือไม่ว่าจะมีปัจจัยอะไรที่จะเป็นเหตุให้ยุบพรรคเพื่อไทย นายสมคิด ระบุว่า เรื่องยุบพรรคเพื่อไทย ก็มีการยื่นมาหลายเรื่องแล้ว ซึ่งหากจะยุบพรรคจริง ทุกอย่างมีกระบวนการ ซึ่งเราไม่ได้กังวลว่า จะถูกยุบ เพราะมีประสบการณ์เรื่องนี้อยู่ 

นายสมคิด กล่าวอีกว่าส่วนการระบุว่า จะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก อีกทั้งมีการพูดถึงชื่ออดีตผู้ว่าการธนาคารแแห่งประเทศไทย หรือ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ตนยืนยันว่า เรามาเล่นกระบวนการของสภาฯ ดีกว่า เพราะสภาฯ จะเป็นผู้กำหนด นายกรัฐมนตรีถูกเลือกโดยสภาฯ แล้วจะมาเลือกจากคนนอกได้อย่างไร ตนไม่เชื่อหรอก เพราะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 ยังมีอยู่ ทั้งนายชัยเกษม นิติสิริ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคภูมิใจไทย มีเพียงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปัจจุบันเป็นองคมนตรี ซึ่งจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรืออะไรก็ตาม ก็ต้องอยู่ในกระบวนการ พร้อมกับย้ำว่า ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความสับสน รัฐบาลยังเดินหน้าเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังทำงานเหมือนเดิม
นายสมคิด ยังระบุอีกว่า ข่าวบางข่าวก็สร้างเอามันเข้าว่า เอาความสะใจเข้าว่า ไม่อยากให้คนในระดับเลขาธิการพรรคมาพูดแบบนี้ เราจะเล่นอะไรอยู่ในกระบวนการสภาฯ ดีที่สุด 

“ถ้าท่านอยากเป็นนายกฯ ก็ต้องหาเสียงให้เกินครึ่ง มาล้มกัน มาว่ากันในสภาฯ ซึ่งทุกอย่างต้องเอาสภาฯ เป็นตัวตั้ง อย่าเพลิน เล่นกันเพลินเดี๋ยวก็ไม่มีสภาฯ ให้เล่น ต้องเอาสภาฯ เป็นหลัก ใครได้เยอะก็ว่ากันตรงนั้น แต่วันนี้ยังไม่มีเหตุอะไรต้องเปลี่ยนนายกฯ ” 
เมื่อถามต่อว่ามองว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังมีความหวังที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่า ที่ออกมาพูดนั้นจะหมายถึงใคร แต่วันนี้ยังมีสภาฯ อยู่ ซึ่งก็ผ่านพ้นมา นายกรัฐมนตรีเพิ่งทำงานได้เดือนกว่า แล้วจะเอาอะไรอีก ส่วนกระบวนการว่าจะยุบพรรคหรือไม่ มันอีกยาว เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะหลายพรรคก็โดนแบบนี้ พร้อมกับระบุว่า รัฐบาลโดนร้องหลายประเด็น บางครั้งผู้ร้องยังจำไม่ได้ว่า ร้องเรื่องอะไรบ้าง และไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ตัดสิน จะตัดสินตรงไหน ต้องใช้เวลา 

“ขอประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจว่า พรุ่งนี้ 07.00 น.มันจะมีอันเป็นไป มันไม่มีหรอกครับ พรุ่งนี้ตื่นมากินกาแฟ มาทำงานเหมือนเดิม ไม่มีปัญหา” นายสมคิด กล่าว

เมื่อถามว่า ทางพรรคพลังประชารัฐอาจไม่ได้หวังให้พล.อ.ประวิตรได้ขึ้นมาเป็นนายกฯ แต่อาจจะหวังแค่ล้มรัฐบาลหรือล้มพรรคเพื่อไทยได้เช่นกัน นายสมคิด กล่าวว่า ล้มแล้วยังไง จะไปอย่างไรเพราะเป็นการยกมือในสภาฯ เป็นหลัก ยังไงเราก็เยอะกว่า

เมื่อถามว่าเป็นการทำให้ระส่ำได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ถ้าคิดว่าจะทำให้เราระส่ำ ตนว่ามันไม่มีประโยชน์ เพราะจะทำให้ประชาชนสับสน เรื่องนี้ตนคุยกับรัฐมนตรีหลายคนต่างก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร และเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้กังวลใจใด ๆ มีแต่ห่วงม็อบขอให้ตนได้คุย และเคลียร์กับม็อบให้รู้เรื่อง ตนก็ยังไม่รู้ว่าจะคุยยังไงเพราะปกติก็คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ก็ปล่อยให้เขาอยู่ไป