เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 ต.ค. 67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือจ่าคิงส์ สะพานใหม่ พา น.ส.กุล (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 42 ปี เจ้าของธุรกิจ, น.ส.แพร (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 40 ปี เซลส์ขายไวน์ และ น.ส.เจ (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 30 ปี พนักงานออฟฟิศ พร้อมกับนางซี (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 65 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน หลังไปฉีดหน้าที่คลินิกดังย่านสยาม แล้วถูกยัดเยียดเกินความจำเป็น ซ้ำผู้เสียหายบางรายมีอาการหน้าบวมกว่า 1 ปี ติดต่อคลินิกแต่กลับโทษเป็นความผิดของใบหน้าผู้เสียหายและขายของเพิ่ม

น.ส.กุล เปิดเผยว่า เริ่มแรกตนได้ไปปรึกษาถึงปัญหาผิวหน้าผ่านทางช่องแชตของคลินิกดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้เข้าไปปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมที่คลินิก เมื่อไปถึงคลินิกคุณหมอเองก็แนะนำว่าให้ตนฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตากับขมับ และก็มีการถามถึงงบประมาณของตนที่ตั้งไว้ ซึ่งตนก็ได้แจ้งว่าตนตั้งงบประมาณอยู่ที่ 30,000 บาท แต่คุณหมอขอเพิ่มอีก 1 CC ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 40,000 บาท แต่เมื่อเข้าฉีดจริงคุณหมอก็มีการพูดว่า “ขอตรงนี้อีกนิดนึง” ซึ่งตนก็คิดว่าคุณหมออาจหมายถึงเจ็บอีกเล็กน้อย หรืออาจจะเพิ่มตัวยาจากที่แกะแล้วตามราคาที่ตกลง แต่ปรากฏว่าคุณหมอทำการแกะกล่องยาเพิ่มและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มโดยไม่แจ้งตนให้ละเอียด ทำให้ค่าใช้จ่ายในการฉีดครั้งนั้นทั้งหมดอยู่ที่ 90,000 กว่าบาท ตนจึงรู้สึกว่าถูกยัดเยียดเกินความจำเป็น และคุณหมอก็ยังฉีดในบริเวณที่ตนไม่ได้มีปัญหาอีกด้วย

น.ส.แพร กล่าวว่า ตนตัดสินใจไปทำที่คลินิกนี้พร้อมกับเพื่อน เนื่องจากเห็นว่าเป็นคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์อันดับหนึ่งของประเทศ และเมื่อไปทำก็รู้สึกถูกยัดเยียดเกินความจำเป็นเช่นเดียวกันกับเพื่อนของตน และนอกจากเรื่องฟิลเลอร์โบท็อกซ์แล้ว ยังถูกยัดเยียดเรื่องเลเซอร์ ที่ตนเพียงแค่ถามราคา แต่ทางพนักงานก็ได้ไปเปิดเครื่องรอแล้วแจ้งว่าหากตนไม่ทำทางคลินิกจะเสียช็อตฟรี ตนจึงต้องจำยอมทำ โดยตนโดนค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ทำกว่า 1 แสนบาท ตนรู้สึกว่าหมอขาดจรรยาบรรณ การที่จะฉีดหน้าหรือเติมตรงไหนจะต้องพอใจทั้งสองฝ่าย เพราะหมอคนดังกล่าวมีการฉีดเข้าไปโดยไม่ได้ถาม นอกจากนี้ตนได้ฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้ม แต่พบว่าร่องแก้มตนเป็นก้อน จนต้องไปแก้ทำสลายที่คลินิกอื่นอีกด้วย

น.ส.เจ กล่าวว่า นางซีที่เป็นคุณแม่ของตน ก็ได้ไปทำที่คลินิกดังกล่าว คุณหมอแจ้งว่าใบหน้าคุณแม่แก่แล้วให้ฟิลเลอร์ฉีด 20 CC แต่เนื่องด้วยราคาแพง ทางแม่จึงขอฉีดเพียง 10 CC แต่คุณหมอก็เสนอให้ฟรีอีก 10 CC ซึ่งขณะฉีดแม่ตนไม่สามารถรู้ได้ว่าของฟรีเป็นของแท้หรือไม่ เนื่องจากทางคุณหมอไม่ได้แกะกล่องให้ดูต่อหน้า เมื่อฉีดเสร็จแล้วพบว่าหน้าของแม่มีอาการบวมผิดปกติ และบวมมาเป็นระยะเวลา 1 ปี ทำให้เวลาออกไปไหนต้องคอยใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เคยติดต่อทางคลินิกดังกล่าวไปแล้ว แต่ทางคลินิกแจ้งว่าหน้าแม่ไม่เท่ากัน และยังขายของเพิ่มตลอด

ขณะที่ จ่าคิงส์ กล่าวว่า เคสดังกล่าวเป็นผู้เสียหายรายใหม่ทั้งหมดที่เป็นคลินิกเดียวกัน และหมอเดียวกันกับที่คุณหมอฟันได้มาร้องไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากนี้ตนจะพาผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อปรึกษาและแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป.