เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2567 เวลา 13.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนายแอนโธนี ตัน (Mr. Anthony Tan) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Grab โดยภายหลังเสร็จสิ้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและยินดีที่ได้พบกับคณะผู้บริหารบริษัท Grab ซึ่งเป็นผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การหารือในวันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีในการกระชับความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณบริษัทฯ ที่บริจาคเงินจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในประเทศไทย และขอบคุณที่ได้ทราบว่า ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในการส่งอาหารให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือด้วย  

ด้านนายแอนโธนี ตัน กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับในวันนี้ บริษัทฯ มีการดำเนินงานในประเทศไทยมาเป็นเวลา 11 ปี และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีการทำงานร่วมกับมากกว่า 850,000 ครัวเรือน ซึ่งเป็นทั้งคนขับ SMEs ด้านอาหาร และร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ มุ่งสร้างการเติบโตที่มากขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้คนเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้ นายแอนโธนี ตัน กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในภาคเหนือของไทย โดยได้ชื่นชมการดำเนินงานของรัฐบาลเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เช่นกัน 

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นความร่วมมือระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมมีความร่วมมือกับบริษัทฯ มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง High season เดือนพ.ย. – ม.ค. รัฐบาลจะจัด Big events จำนวนมาก ซึ่งจะเป็นโอกาสขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ด้วย โดยทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันเพื่อดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลต้องการผลักดันให้ปี 2568 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวไทย ในโอกาสนี้ บริษัทฯ กล่าวว่าพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ พร้อมชื่นชมการทำงานของรัฐบาลที่สามารถดึงเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย ทั้งเสน่ห์ทางวัฒนธรรม อาหาร รวมถึงความใจดีของผู้คน และวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้พูดคุยกับพันธมิตรบริษัทชั้นนำ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ผลักดันไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลก