สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่านายอับบาส อารักชี รมว.การต่างประเทศอิหร่าน กล่าวระหว่างการเยือนซีเรียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าการยิงขีปนาวุธของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ไปยังอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา “คือการตอบสนองชัดเจนที่สุดแล้ว” ต่อการกระทำของรัฐไซออนิสต์ ที่หมายถึงอิสราเอล ซึ่งสังหารทหารระดับสูงหลายนายของอิหร่าน ตลอดจนแกนนำหลายคน ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มฮามาส


ดังนั้น หากอิสราเอลตอบโต้การตอบสนองของอิหร่านในครั้งต่อไป “จะทวีความรุนแรงและยิ่งเลวร้าย” อย่างไรก็ตาม อารักชีกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญสูงสุดในเวลานี้ คือการต้องหยุดยิงทั้งในฉนวนกาซาและเลบานอน ซึ่งรัฐบาลเตหะรานพร้อมและยินดีให้ความร่วมมือ อีกทั้งหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าการเจรจาจะบรรลุผลในไม่ช้า

นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เข้าพบประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ที่กรุงดามัสกัส


ทั้งนี้ อารักชีเข้าพบประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ที่กรุงดามัสกัสด้วย ซึ่งอัสซาดกล่าวถึงการยิงขีปนาวุธของอิหร่านใส่อิสราเอล เป็นครั้งที่สองต่อจากเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา “เป็นการตอบสนองที่แข็งแกร่ง และเป็นการมอบบทเรียนให้กับพวกไซออนิสต์”

ในเวลาเดียวกัน แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า หน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่าง “เตรียมการ” เพื่อเปิดปฏิบัติการตอบโต้อิหร่าน จากการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุด แต่ปฏิเสธให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงเวลา “ที่น่าจะเกิดขึ้น”.

เครดิตภาพ : AFP