เรื่องราวที่กลายเป็นอุทาหรณ์อันน่าเศร้าจากจีนนี้เปิดเผยโดยนางลู่ แม่ของนักเรียนชายวัย 13 ปีคนหนึ่งจากเมืองจี่หนิง มณฑลซานตง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติจากการลงโทษจนเกินความพอดีของครูที่โรงเรียน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว ลูกชายของเธอเข้าร่วมการเข้าค่ายฤดูร้อนของทางโรงเรียนเป็นเวลา 7 วัน ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายซึ่งมีพิธีฉลองการปิดค่าย
พ่อแม่ของเด็กชายวัย 13 ปีได้รับภาพถ่ายของลูกชายในงานพิธี แต่เด็กชายกลับดูไม่สดใส ดวงตาของเขาแดงช้ำและขาข้างหนึ่งดูอ่อนแรงผิดปกติ แต่เมื่อสอบถามไปยังผู้จัดการค่าย พวกเขาก็ได้รับคำตอบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงเมื่อพวกเขาไปรับลูกชายกลับบ้านแล้วพบว่าเด็กชายต้องนั่งรอพ่อแม่เพราะยืนแทบไม่ไหว
หลังจากพวกเขาซักถามลูกชายว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้รู้ว่าก่อนทำพิธีปิดค่าย ครูของเด็กชายจับได้ว่าเขาแอบคุยเล่นกับเพื่อน ๆ ระหว่างกิจกรรมฝึกซ้อม จึงลงโทษให้เขาทำท่าสควอต (Squat) จำนวน 1,000 ครั้ง พอเด็กชายทำไปถึง 200 ครั้งก็ล้มลงกับพื้นเพราะเจ็บกล้ามเนื้อ แต่แทนที่ครูจะช่วยเด็กชาย กลับเข้ามาเตะเขาและปล่อยให้เขานอนคุดคู้อยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวด จนกระทั่งถึงเวลาทำพิธีปิดค่ายกิจกรรมจึงมีคนมาช่วยให้เขาลุกขึ้นและพาไปนั่งบนเก้าอี้ อีกทั้งใกล้จะถึงเวลาที่บรรดาพ่อแม่มารับลูก ๆ กลับบ้านกันแล้ว
เนื่องจากเด็กชายบ่นว่าปวดขามาก พ่อของเขาจึงขอให้ครูคนหนึ่งในค่ายพาเขาไปที่โรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียงเพื่อตรวจดูขาของเขา
หลังจากได้รับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลประชาชนเขตเจียเซียง แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเด็กชายมีอาการกล้ามเนื้อตึงเล็กน้อยและให้ยามาทาแก้ปวด อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่กี่วันต่อมา ขาของเด็กชายก็เจ็บมากจนเดินไม่ได้และทำให้เขานอนไม่หลับ
พ่อแม่ของเด็กชายจึงพาเขาไปที่โรงพยาบาลในเครือของวิทยาลัยการแพทย์จี่หนิง คราวนี้แพทย์วินิจฉัยว่าเด็กชายมีภาวะกล้ามเนื้อสลาย (Rhabdomyolysis) ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โรคนี้เกิดจากการออกกำลังหรือใช้กล้ามเนื้ออย่างรุนแรง ส่งผลให้กระดูกและกล้ามเนื้อสลายตัวอย่างรวดเร็ว ตับและไตทำงานผิดปกติ
ในกรณีของเด็กชายวัย 13 ปีรายนี้ อาการป่วยของเขาเกิดจากการทำท่าสควอตติดต่อกันนานเกินไป ซึ่งเป็นการใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักหน่วง ออกแรงมากในช่วงเวลาสั้น ๆ อาการของเขาร้ายแรงมากจนแพทย์ไม่อนุญาตให้เดินและต้องนั่งรถเข็นเท่านั้น
หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 13 วัน เด็กชายผู้นี้ก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่กลับไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ ปัจจุบัน เด็กชายอายุ 14 ปีแล้ว และยังไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเด็กทั่วไป ทั้งมีแนวโน้มสูงว่า เขาจะไม่สามารถทำกิจกรรมทางกายที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนักได้อีก กล้ามเนื้อขาของเขาฝ่อลงและสุขภาพอ่อนแอลงเพราะตับและไตได้รับความเสียหายจนไม่สามารถหายขาดได้
นางลู่กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายกับลูกชายของเธอ ครอบครัวของเธอก็พยายามจะเอาเรื่องกับผู้จัดการค่ายฤดูร้อน และกล่าวหาว่าอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายลูกชายของพวกเขา
ในตอนแรกไม่มีใครจากทางผู้จัดค่ายฤดูร้อนออกมายอมรับผิด แต่เมื่อเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ออกมายืนยันเรื่องราวของลูกชายของนางลู่ พวกเขาก็ยอมรับว่ามีครูสั่งลงโทษเด็กนักเรียนจริง
หลังจากผ่านกระบวนการเจรจา ผู้ปกครองของเด็กชายวัย 13 ปีกับผู้จัดค่ายฤดูร้อนสามารถหาข้อยุติในการชดเชยได้ โดยกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมาย
ที่มา : odditycentral.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES