สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ว่า นางจูลี โคแซค หัวหน้าฝ่ายการสื่อสารของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า การประมาณการเบื้องต้นอย่างเป็นทางการ บ่งชี้ว่า จีดีพีของฉนวนกาซาลดลง 86% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 และพลเรือนในฉนวนกาซา ต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เลวร้าย, วิกฤติมนุษยธรรม ตลอดจนการส่งมอบความช่วยเหลือที่ไม่เพียงพอ

“ส่วนในเขตเวสต์แบงก์ แนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่เลวร้ายยิ่งขึ้น และข้อมูลเบื้องต้นอย่างเป็นทางการ ชี้ให้เห็นว่า จีดีพีของเขตเวสต์แบงก์ ลดลง 25% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567” โคแซค กล่าวกับผู้สื่อข่าว

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของอิสราเอลก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือหลัก 3 แห่ง ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอล

แม้ข้อมูลอย่างเป็นทางการเผยให้เห็นว่า จีดีพีของอิสราเอล หดตัว 21% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 และฟื้นตัว 14% ในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่การขยายตัวของจีดีพี กลับชะลอตัวในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 0.7%

นอกจากนี้ โคแซคกล่าวเพิ่มเติมว่า ความขัดแย้งในเลบานอน ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้สถานการณ์ทางสังคม และเศรษฐกิจมหภาคที่เปราะบางอยู่แล้ว เลวร้ายลงอีก ซึ่งไอเอ็มเอฟ กำลังติดตามสถานการณ์ที่น่ากังวล และมีความไม่แน่นอนสูงมากเช่นนี้ อย่างใกล้ชิด.

เครดิตภาพ : AFP