มื่อเวลา 10.50 น.วันที่ 2 ต.ค.67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร  ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต(ฉบับที่..) พ.ศ….จำนวน 3 ฉบับ คือฉบับที่ 1 ของนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.พรรคประชาชน และคณะเป็นผู้เสนอ ที่เรียกว่า “กฎหมายสุราก้าวหน้า” ฉบับที่2 ของนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ และคณะเป็นผู้เสนอ ที่เรียกว่า “กฎหมายสุรารวมไทย” และฉบับที่ 3 ของนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับคณะเป็นผู้เสนอ เรียกว่า “กฎหมายสุราชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก” ซึ่งเป็นการเลื่อนลงมติมาจากวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยค้างอยู่ที่การลงมติแยกที่ละฉบับ

ซึ่งผลปรากฏว่าการลงมติ ฉบับที่ 1 เห็นด้วย137 เสียง ไม่เห็นด้วย 237 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 คะแนน ถือว่ามติที่ประชุมไม่รับหลักการฉบับของนายเท่าพิภพ ส่วนฉบับที่2 ของนางศิริวรรณ ที่ประชุมมีมติ เห็นด้วย385 เสียง ไม่เห็นด้วย 6 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง ขณะที่ฉบับที่3 ของนายชนินทร์ ที่ประชุมมีมติเห็นด้วย 384 เสียง ไม่เห็นด้วย5 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 7 เสียง  ถือว่าที่ประชุมเห็นสมควรรับหลักการฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3  ตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญจำนวน 32 คน แปรญัตติ 15 วัน โดยใช้ร่างที่เสนอโดยนายชนินทร์ เป็นร่างหลักในการพิจารณา

ต่อมาเวลา 11.40 น. นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) แถลงภายหลังสภาผู้แทนราษฎร ตีตกร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต  ว่า ตอนแรกก็มีความหวัง คิดว่าจะผ่าน แต่กลับถูกถีบตกซ้ำอีกรอบ แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรข้องใจ เพราะเข้าใจว่าเป็นฝ่ายค้าน และพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาล อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ก็น่ายินดี ไม่ว่าจะเป็นร่างฉบับใด ขอแค่มีเป้าหมายว่า ให้ทุกคนมีเสรีภาพในการทำสุรา ประกอบอาชีพเป็นของตัวเอง ทำลายทุนผูกขาด ตนเริ่มจากศูนย์แล้วมาถึงตรงนี้ได้ ก็ถือเป็นก้าวสำคัญ ซึ่งอยากให้ประชาชนจับตาดูต่อไป ไม่ใช่แค่เรื่องใบอนุญาต แต่ยังมีเรื่องของภาษี ที่ต้องทำให้ยุติธรรมกับคนตัวเล็กตัวน้อย ซึ่งจะต้องติดตามในกรรมาธิการ (กมธ.) ว่าจะมีอะไรสอดไส้หรือไม่

“อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นใน กมธ. และการทำงานของพรรคเรา วันนี้ก็เป็นวันนึงที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง แม้เราจะไม่ได้ทำด้วยมือของเราเอง แต่เรารณรงค์หนักพอ ทุกคนก็มาทำให้เรา“ นายเท่าพิภพ กล่าว.