สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ว่า ไชน์บาว์ม อดีตนายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี วัย 62 ปี สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และรับมอบสายสะพาย ในรัฐสภาเม็กซิโก โดยมีบรรดาบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ เข้าร่วมพิธีการด้วย

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงชาวเม็กซิโกขึ้นสู่ตำแหน่งนี้ เพื่อกำหนดชะตากรรมของประเทศที่สวยงามของพวกเรา” ไชน์บาว์ม กล่าวกับสมาชิกสภานิติบัญญัติที่แสดงความยินดีกับเธอ

อีกด้านหนึ่ง กลุ่มผู้สนับสนุนของไชน์บาว์ม รวมตัวกันตั้งแต่ช่วงรุ่งสาง เพื่อเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งของผู้นำคนใหม่ของเม็กซิโก ซึ่งบางคนกล่าวว่า ไชน์บาว์มเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญมาก และประธานาธิบดีหญิงสามารถเข้าใจประชาชนได้ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ไม่ได้เข้าร่วมพิธีสาบานตนครั้งนี้ คือ สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน ซึ่งไชน์บาว์มปฏิเสธที่จะส่งคำเชิญ โดยกล่าวหาว่า พระองค์ทรงไม่ยอมรับความเสียหาย จากการที่สเปนยึดครองเม็กซิโก ส่งผลให้ทางการสเปน ตอบโต้ด้วยการบอยคอตพิธีสาบานตนอย่างสิ้นเชิง แม้ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและประวัติศาสตร์ที่แน่นแฟ้นก็ตาม

ทั้งนี้ ไชน์บาว์มได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย ในการเลือกตั้งเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเธอให้คำมั่นว่าจะสานต่อวาระการปฏิรูปฝ่ายซ้ายของอดีตประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ พันธมิตรใกล้ชิดของเธอ

กระนั้น ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโก ต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น การฆาตกรรมและการลักพาตัวที่เกิดขึ้นทุกวัน, แก๊งค้ายาเสพติดที่ใช้ความรุนแรงและควบคุมพื้นที่บริเวณกว้าง รวมถึงผลพวงจากความขัดแย้งเกี่ยวกับการปฏิรูประบบตุลาการ ซึ่งทำให้เม็กซิโกเป็นประเทศเดียวในโลก ที่มีการเลือกตั้งผู้พิพากษาทุกคน.

เครดิตภาพ : AFP