สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ว่านายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ผู้นำญี่ปุ่น กล่าวว่า สภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงซึ่งกำลังเกิดขึ้นล้อมรอบญี่ปุ่นนั้น “ตึงเครียดและรุนแรงที่สุด” นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองยุติ


อย่างไรก็ตาม “ด้วยรากฐานของความเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคง” ระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่น ทั้งสองประเทศจะร่วมกันขยายขอบเขตของความร่วมมือดังกล่าวต่อไป ผ่านการขับเคลื่อนนโยบายการทูต และความมั่นคงเพื่อสันติภาพ


ขณะเดียวกัน อิชิบะเน้นย้ำการให้ความสำคัญ กับการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการให้ความดูแลความปลอดภัยของพลเมืองญี่ปุ่นในต่างประเทศ พร้อมทั้งยืนยันการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางทหาร ในกองกำลังป้องกันตนเอง ( เอสดีเอฟ )


ในด้านนโยบายเศรษฐกิจ อิชิบะกล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศ “ยังอยู่บนปากเหว” และยังไม่มีความชัดเจน ว่าจะหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดได้หรือไม่ ดังนั้น หนึ่งในวาระเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องตอนนี้ คือการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการกำหนดและขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อยุติภาวะเงินฝืดของญี่ปุ่นให้เร็วที่สุด


นอกจากนี้ ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวถึงการเพิ่มบทบาทของผู้หญิง ให้อยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจตัดสินใจมากขึ้น กระนั้น ในบรรดาคณะรัฐมนตรีทั้ง 20 คน ซึ่งรวมถึงอิชิบะ มีรัฐมนตรีหญิงเพียง 2 คนเท่านั้น.

เครดิตภาพ : AFP