เมื่อวันที่ 1 ต.ค. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปอาคารธรรมสถาน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร) อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ทรงเป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนามมร เป็นปีที่ 131 โดยมี พระธรรมวชิรจินดาภรณ์ อธิการบดีมมร กราบทูลถวายรายงาน และพิธีทอดผ้าป่าเพื่อนำปัจจัยโดยเสด็จพระกุศลสมทบทุนการศึกษาสมเด็จพระสังฆราชเจ้า (วาสนมหาเถร) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช ทรงตั้งไว้ในมหาวิทยาลัย สำหรับประทานแก่พระภิกษุสามเณรนักศึกษา

จากนั้น สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานรางวัล “คุณสมฺปนฺโน” จำนวน 15 รูป/คน แก่ผู้มีอุปการคุณต่อมหาวิทยาลัย รางวัล “วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน” จำนวน 10 รูป/คน แก่บุคลากรดีเด่น ทุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณร และของที่ระลึกแก่ผู้ร่วมโดยเสด็จพระกุศล
โอกาสนี้ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนามหามกุฏราชวิทยาลัยขึ้นเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมชนกนาถ โดยมี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นปฐมบูรพาจารย์ ด้วยทุกๆ พระองค์ ล้วนทรงมุ่งหมายให้พระพุทธศาสนา สถาพรอยู่คู่โลกนี้และเป็นหลักชัยของบ้านเมืองไทยอยู่ตราบกาลนาน การที่พระพุทธศาสนาจะดำรงคงมั่นจำเป็นต้องสร้างสรรค์พุทธบริษัทให้รู้ลึกและรู้รอบในวิชชาตามกระบวนการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมที่ถูกต้อง หากการศึกษาพระปริยัติธรรมอ่อนแอผิดพลาดคลาดเคลื่อน หรือรวนเรไปตามอัตโนมติแล้วย่อมปฏิบัติผิด และสอนผิด ทำให้ไม่อาจเข้าถึงปฏิบัติธรรม และปฏิเวธธรรมได้

ปริยัติธรรม อันควรศึกษาโดยรอบ ย่อมหมายถึง พระพุทธพจน์ หรือพระไตรปิฎก รวมทั้งอรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา และคำอธิบายต่างๆ เพื่อให้เข้าใจในหลักคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย การศึกษาปริยัติธรรมอาจจำแนกได้เป็น 3 ระดับ กล่าวคือ 1.อลคัททูปริยัติ การศึกษาแบบจับงูพิษที่หาง คือ ศึกษาเพื่อลาภสักการะ เพื่อคำสรรเสริญ หรือเพื่อยกตนข่มผู้อื่น ย่อมเป็นโทษ เหมือนการจับงูพิษที่หางงูย่อมแว้งขบกัดเอาได้ 2. นิสสรณัตถปริยัติ การศึกษาเพื่อประโยชน์แก่การออกไปจากทุกข์ คือ เพื่ออบรมปัญญาเป็นการศึกษาของผู้ที่เห็นโทษภัยในวัฏสงสาร และ 3. ภัณฑาคาริกปริยัติ การศึกษาแบบขุนคลัง คือ เพื่อทรงพระศาสนาไว้ไม่ให้เสื่อมสูญเป็นการศึกษาของผู้จบกิจในการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสแล้ว แต่ยังมีฉันทะในการศึกษา เพื่อถ่ายทอดพระธรรมคำสอนให้แก่ชนรุ่นหลัง

ณ โอกาสอันเป็นมงคลนี้ จึงขอเตือนใจให้ทุกท่านอย่าได้คิดศึกษาแบบ อลคัททูปริยัติ แต่ขอเป็นกำลังใจสนับสนุนให้ท่านจงเป็นผู้องอาจ และเข้มแข็งในอันที่จะศึกษาพระปริยัติธรรม เพื่อความออกจากทุกข์ และเพื่อรักษาพระสัทธรรมไว้ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์สมตามเจตนารมณ์ของบูรพาจารย์ ขออย่าให้อคติทั้ง 4 เข้ามาบดบัง และบิดเบือน จนกลายเป็นมิจฉาทิฐิไปได้เป็นอันขาด