กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้คุมตัว นางสาวกรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และนายกานต์ เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ มาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวน คัดค้านการประกันตัว ทำให้ทั้งคู่ต้องนอนห้องควบคุมผู้ต้องหา จากนั้นในช่วงเช้าวันที่ 1 ต.ค. 67 เจ้าหน้าที่จะนำตัวทั้ง 2 คน ไปฝากขังต่อศาล ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้

หน้าดำคร่ำเครียด! หิ้ว ‘แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์’ ส่งฝากขัง ลั่นไม่หนี ขอโอกาสเยียวยาลูกค้า

ความคืบหน้า วันเดียวกัน (1 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน ปคบ. นำตัว แม่ตั๊ก กับ ป๋าเบียร์ ขออำนาจศาลอาญาฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธ.ค. 2567 พร้อมคัดค้านกันประกันตัว เนื่องจากความเสียหายเป็นวงกว้าง เกรงผู้ต้องหาหลบหนีและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ขณะที่ผู้เสียหายเกือบ 10 ราย ต่างพากันเดินทางมาคัดค้านการประกันตัว

นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ หรือ ทนายพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ผู้เสียหายได้เดินทางมาคัดค้านการประกันตัว แม่ตั๊ก แต่จะได้ประกันหรือไม่ได้ประกัน เป็นดุลพินิจของศาล แต่การทำหน้าที่ของเราฝ่ายผู้เสียหายก็ไม่อยากให้ได้ประกันตัวออกไป ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา และจะกล่าวอ้างอย่างไรก็ได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องไปต่อสู้คดีกันในชั้นศาล

ด้านผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พวกเราให้โอกาส แม่ตั๊ก ออกมาชี้แจงแล้ว แต่ว่าไม่ออกมาชี้แจงเอง รอให้ตำรวจออกหมายจับ ดังนั้นถ้าหากคุณบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก คุณต้องออกมาแล้ว เราในฐานะผู้เสียหายมีสิทธิที่จะมาคัดค้านการประกันตัว พูดตรงๆ ว่าเราก็กลัวว่าจะหลบหนี คุกคามพยานหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่ามีเบื้องลึกเบื้องหนาอะไรอีกบ้าง ที่จะให้การช่วยเหลือแม่ตั๊ก เพราะยิ่งล้วงลึกก็ยิ่งเจอ ที่พวกเราฝ่ายผู้เสียหายกล้าออกมาสู้กับเขา ซึ่งมีเงินหนา ก็ต้องอาศัยกำลังใจเป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่าแม่ตั๊ก อ้างว่าไม่มีเจตนาให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น กลุ่มผู้เสียหาย กล่าวว่า เจตนาหรือไม่เจตนา อยากให้ผู้สื่อข่าวย้อนไปดูว่าเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า เพราะว่าการกระทำจะขัดแย้งกัน ที่พูดว่ายินดีจะรับผิดชอบ ก็อาจหวังผลให้ได้ประกันตัว ซึ่งตอนนี้ ผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 500-600 คนแล้ว มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท

เมื่อถามว่า แม่ตั๊ก สาบานว่าจะเยียวยาผู้เสียหายทุกคน ตรงนี้เราเชื่อหรือไม่ ผู้เสียหาย ต่างพากันหัวเราะ และกล่าวว่า พวกเราไม่เชื่อมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ออกเป็นข่าว ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตอนนี้ที่ร้านทองของแม่ตั๊ก รับซื้อทองคืนเฉพาะ “ปี่เซียะ” ในราคา 3 หมื่นกว่าบาท แต่สินค้าที่ผู้เสียหายซื้อไปในราคาหลักร้อย หลักพันบาทนั้น ปรากฏว่าเขาปฏิเสธไม่รับเยียวยา ซึ่งเป็นสินค้าที่เขาขายเช่นกัน แล้วลูกค้าที่ซื้อไปแล้วจะทำอย่างไร ถ้าอ้างว่าจะเยียวยาจริง ก็อยากให้เยียวยาให้ครบทุกคน ไม่ใช่มีเงื่อนไขเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ที่ผ่านมาพวกเราก็ซื้อทองเก็บไว้ แต่เมื่อนำไปขายบางครั้งได้ครึ่งราคา ก็เลยอยากทราบว่า ทองที่เราซื้อมานั้นมันคืออะไร แล้ววันนี้ก็ไม่กังวลด้วย ว่าจะได้เงินชดเชยคืนหรือไม่ แต่ยอมออกมาเรียกร้อง เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้น อาจจะทำร้ายคนเยอะมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด ว่า เมื่อเวลา 13.00 น. กระบวนการอยู่ระหว่างไต่สวนคำร้องฝากขังและไต่สวนคำร้องขอประกัน ซึ่งมีทนายความของผู้ต้องหาเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียหายมาศาลหลายราย ยื่นคำร้องคัดค้านประกันต่อศาล