เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี (สคช.) กล่าวถึง กรณีที่ปรากฎข้อมูลว่ามีดาราเเละอินฟลูเอนเซอร์ไปร่วมไลฟ์สด น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และพรบ.คอมฯ จะมีส่วนร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่ว่า

คดีนี้เมื่อประชาชนผู้เสียหายเข้าเเจ้งความเเล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีอำนาจสอบสวนตามที่กฎหมายกำหนด ทันทีโดยการสอบสวนจะต้องสอบสวนทั้งผู้กล่าวหาเเละผู้ถูกกล่าวหาให้ได้ความจริง ในส่วนที่จะมีใครไปเกี่ยวข้องในการกระทำผิดด้วยหรือไม่นั้นขึ้นกับการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมก็มีโอกาสที่จะไปให้การตามความเป็นจริงนั้น เรื่องนี้จึงต้องดูการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนจึงจะบอกได้ว่า ใครมีส่วนร่วมกระทำผิดขึ้นกับความจริงเเละการสอบสวนความจริงจะนำมาสู่การดำเนินคดี

ในส่วนลักษณะพิเศษที่ว่าควรร่วมไลฟ์สดอาจจะโดนข้อหาว่าร่วมกระทำความผิดนั้นคือต้องรู้ว่าเป็นความเท็จ ถ้าคุณรู้ว่าเป็นความเท็จเเล้วคุณยังไลฟ์สดหลอกลวงอันนั้นสุ่มเสี่ยงที่จะผิด พรบ.คอมฯ เเต่ก็มีบางกรณีที่รู้ว่าเป็นความเท็จเเต่ไม่ได้ประโยชน์จากการซื้อขายเลยก็อาจจะผิดบางข้อหา ไม่ได้เป็นตัวการร่วมฉ้อโกงฯ เพราะไม่ได้ผลประโยชน์ เเต่ก็อาจจะโดนสนับสนุนได้ ขึ้นอยู่กับการสอบสวน

ผู้ถูกกล่าวหายังมีโอกาสพิสูจน์ในชั้นสอบสวนของตำรวจ ชั้นพิจารณาคดีของอัยการ หรือเเม้กระทั่งเมื่อฟ้องเเล้วก็ไปพิสูจน์ในศาล ตรงนี้ต้องเอาความจริงมาพิสูจน์ในขั้นสอบสวนก่อนจึงจะบอกได้ว่าใครเข้าข่ายร่วมกันกระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหรือเป็นผู้สนับสนุนหรือไม่ จะเห็นได้จากที่ผ่านมาที่มีคดีเเชร์ชื่อดังก่อนหน้านี้ที่มีศิลปินไปร่วมโฆษณาสุดท้ายก็โดนฟ้องคดีอยู่ในศาล