เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชายหนุ่มชาวเวียดนามชื่อว่า ฟาน มินห์ ทัง เพิ่งได้รับความช่วยเหลือหลังจากตกค้างอยู่บนต้นไม้เนื่องจากน้ำท่วมหนักเป็นเวลาเกือบ 10 วันในบริเวณแม่น้ำอาลูน 

ความเคราะห์ร้ายของทังเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน เขาเข้าไปยังพื้นที่น้ำท่วมถึงที่แม่น้ำเพื่อไปดูคนตกปลาแล้วเผลอหลับไป แต่เมื่อทังตื่นขึ้นมาก็พบน้ำกำลังท่วมตรงที่ที่เขาอยู่และระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาติดอยู่ที่นั่นและไม่สามารถว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งได้

ทังกล่าวว่าเมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเหลือเขาอยู่คนเดียวในบริเวณนั้นและมีน้ำล้อมรอบไปหมดทุกด้าน เขาพยายามขอความช่วยเหลือ แต่ไร้ผลเพราะไม่มีคนอยู่แถวนั้นเลย ขณะที่ฝนก็ตกหนักอย่างต่อเนื่อง

ต่อมากระแสน้ำท่วมก็พัดพาทังลงไปตามแม่น้ำ ห่างจากที่เดิมประมาณ 500 เมตร ระหว่างนั้นเองที่ทังคว้ากิ่งของต้นไม้ต้นหนึ่งได้และเกาะมันไว้เป็นเวลานานถึง 9 วัน ประทังชีวิตด้วยการดื่มน้ำในแม่น้ำและนอนบนต้นไม้ในตอนกลางคืน

ชาวบ้านในพื้นที่พบเห็นทังเมื่อวันอังคารที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ต่อมา เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจในพื้นที่ที่พาเขากลับเข้าฝั่งโดยให้เขาสวมเสื้อชูชีพและเกาะเชือกไว้ จากนั้นก็ลากตัวเขาผ่านน้ำที่ท่วมหนักมายังจุดปลอดภัยโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที

รายงานข่าวระบุว่า ทังซึ่งแทบขยับตัวไม่ไหวแล้วในตอนที่มีคนมาช่วย ติดอยู่ในเขตแม่น้ำที่ลึกถึง 4 เมตรและชายฝั่งที่ใกล้ที่สุดก็ห่างจากเขาไปถึง 30 เมตร ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งตามลำพัง ขณะที่เจ้าตัวออกปากว่า “นึกว่าจะไม่รอดแล้ว” 

เหงียนจุงเหียว พี่เขยของทัง กล่าวว่า ทังอาศัยอยู่กับเขาและภรรยาหลังจากแม่ของเขาเสียชีวิตและพ่อของเขาหายไป ทังเพิ่งได้งานทำที่ร้านกาแฟในเขตหม่างหยางได้ไม่นาน และมีคนเห็นเขาครั้งสุดท้ายขณะกำลังเดินทางไปทำงานเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2567 เมื่อเขาไม่กลับมาในคืนนั้น ครอบครัวจึงเข้าแจ้งความว่าเขาหายตัวไป แต่ก็หาตัวเขาไม่พบ 

ทังได้รับการนำตัวส่งโรงพยาบาล ทีมแพทย์ระบุว่าสภาพร่างกายของเขาไม่สู้ดี มีอาการเจ็บคอ เท้าติดเชื้อ อย่างไรก็ตามการที่เขารอดชีวิตมาได้ทั้งที่ไม่ได้กินอะไรเลย เว้นแต่น้ำ เป็นเวลานานเกือบ 10 วัน นับเป็นกรณีที่หาได้ยาก 

ขณะนี้ทังอยู่ระหว่างพักฟื้นโดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนในอนาคต

ที่มาและเครดิตภาพ :  e.vnexpress.net