นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในปีงบ 67 กรมธนารักษ์สามารถจัดเก็บรายได้ 14,378 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 91 ปีกรมธนารักษ์ มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 11,500 ล้านบาท ถึง 2,878 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากรายเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการที่ราชพัสดุและการผลิตเหรียญกษาปณ์ ตลอดจนมีรายได้พิเศษ ทำให้สามารถจัดเก็บรายได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

ส่วนปี 68 ตั้งเป้าหมายให้กรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้ 11,600 ล้านบาท โดยได้มอบนโยบายให้ดำเนินการบริหารจัดการที่ราชพัสดุ โดยการเพิ่มพื้นที่จัดหาประโยชน์ 10% และเพิ่มผลตอบแทนจากค่าเช่าที่ราชพัสดุ สินทรัพย์ หรืออาร์โอเอ  ในสัญญาเช่าเชิงพาณิชย์ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอาร์โอเอ 1.1% กว่าเป็น 3% เพื่อให้กรมธนารักษ์สามารถจัดเก็บรายได้รวม 55,000 ล้านบาท ตามแผนระยะ 5 ปี (ปี 66 – 70)

นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์สามารถจัดเก็บรายได้เพื่อนำส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน ปีงบ 67 มากกว่าเป้าหมาย 125.03% ของประมาณการรายได้ทั้งปี ซึ่งรายได้ดังกล่าว ประกอบด้วย การจัดเก็บรายได้จากภารกิจด้านที่ราชพัสดุ และการจัดเก็บรายได้จากภารกิจด้านเหรียญกษาปณ์  โดยรายได้จากภารกิจด้านที่ราชพัสดุ  13,442 ล้านบาท คิดเป็นรายได้ปกติที่เป็นค่าเช่าที่ราชพัสดุ  10,601 ล้านบาท และรายได้พิเศษ 3,776 ล้านบาท อาทิ ค่าเวนคืนที่ดินเพื่อการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของการไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ค่าทดแทนภาระในอสังหาริมทรัพย์ของ รฟม.

นอกจากนี้ ยังมีการต่ออายุสัญญาจากค่าเช่าส่วนเพิ่มและค่าธรรมเนียมต่ออายุสัญญาของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด การเวนคืนที่ดินเพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน การประมูลขายทรัพย์สินที่ตกเป็นของแผ่นดินตามคำพิพากษาของศาล และส่วนแบ่งรายได้จากบริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด ส่วนการจัดเก็บรายได้จากภารกิจด้านเหรียญกษาปณ์ สามารถจัดเก็บรายได้ 936 ล้านบาท คิดเป็น 117% ของเป้าหมาย โดยมาจากรายได้ปกติ 743 ล้านบาท และรายได้พิเศษ 192 ล้านบาท

“การหารายได้เพิ่มจากสินทรัพย์ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อค่าเช่าที่ดินของประชาชน ผู้มีรายได้น้อยที่เช่าที่ราชพัสดุ เพื่อทำการเกษตร และเป็นที่อยู่อาศัย โดยการขึ้นค่าเช่าส่วนใหญ่จะเน้นที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ เพราะรายได้ของกรมส่วนมากมาจากค่าเช่าเชิงพาณิชย์ถึง 98% แต่รายได้จากการเกษตรและที่อยู่อาศัยมีเพียง 2% เท่านั้น นอกจากนี้ กรมมีแผนจะรับคืนนำที่ราชพัสดุกลับมาบริหารเองเพิ่มเป้าหมาย 20,000 ไร่ ซึ่งจะช่วยให้กรมมีรายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง พร้อมกับมีการแจกสัญญาเช่าให้ประชาชนไม่ต่ำกว่า 2 พันราย ส่วนรายได้พิเศษในปีหน้าคาดว่าจะยังไม่มีเข้ามา”