สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ว่า กระทรวงพลังงานอินโดนีเซีย แนะนำให้เพิ่มการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม 5 กิกะวัตต์ ภายในปี 2573 เมื่อเทียบ 8 กิกะวัตต์ ที่เสนอภายใต้โครงการพันธมิตรการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม (เจอีทีพี) ของประเทศ

ความเคลื่อนไหวข้างต้น ทำให้กระทรวงพลังงานอินโดนีเซีย คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าพลังงานลมได้เพียง 37 กิกะวัตต์ ภายในปี 2603 เมื่อเทียบกับ 45 กิกะวัตต์ ภายในช่วงกลางศตวรรษ ภายใต้แผนความร่วมมือดังกล่าว

ทั้งนี้ ข้อตกลงเจอีทีพีของอินโดนีเซีย ได้รับการประกาศเมื่อปี 2565 โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมเงินสนับสนุนและเงินกู้ มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 644,000 ล้านบาท) จากประเทศร่ำรวย และธนาคารระหว่างประเทศ เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานของอินโดนีเซีย

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของโครงการประสบกับการชะงักงัน เนื่องจากความไม่เต็มใจที่จะเลิกใช้ถ่านหิน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎหมายที่ป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินของรัฐ

แม้พลังงานลมคาดว่าจะมีบทบาทค่อนข้างน้อย ในสัดส่วนพลังงานในอนาคตของอินโดนีเซีย เมื่อเทียบกับพลังงานแสงอาทิตย์ แต่การปรับลดเป้าหมาย สะท้อนถึงความเคลือบแคลงสงสัยที่เพิ่มขึ้นในรัฐบาลจาการ์ตา เกี่ยวกับความสามารถในการบรรลุเป้าหมาย ภายใต้โครงการเจอีทีพี.

เครดิตภาพ : AFP