ฮัลโหลๆแฟนๆที่รักของอิชั้น “คนสวยหลักสี่” มาประจำการแล้วจ้า ใครอยากอ่านข่าวฮอต ข่าวดีต่อใจ ข่าวเริ่ดๆ ตบเท้ามารอเลย อิชั้นพร้อมชี้แจงแถลงไขแล้วค่า อิอิ
@ประเดิมข่าวแรกกันที่ข่าวของเหล่าบรรดา BOICE (บอยซ์)ชื่อแฟนคลับของวง CNBLUE กันเลย เพราะล่าสุดสามหนุ่ม จองยงฮวา อีจองชิน และ คังมินฮยอก เขาคัมแบ็กมินิอัลบั้มที่ 10 แล้วจ้า ผ่าน CNBLUE 10TH MINI ALBUM (X) โดยมีสองคอนเซ็ปต์ด้วยกันทั้งลุคสีขาว เหมือนเทพบุตรและสีดำ สุดเท่ ชาวร็อกมาเอง งานนี้บอกเลยว่าแค่เห็นรูปทีละรูปที่ปล่อยออกมานั้นก็ว่าเท่แบบกรีดร้องแล้วนะคะ พอเห็นรูปเดี่ยวของสามหนุ่มนั้น สามารถยกหัวใจให้เขาได้เลยค่ะ เพราะหล่อมาก หล่อแบบไม่มีที่ติเลย งานนี้เราเลยเอามาให้ทุกคนตัดสินค่ะ ว่าลุคไหนหล่อกว่ากัน อิอิ
@ต่อกันที่ข่าวของโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับละครพีเรียดดราม่ารสจัดจ้าน “รอยรักรอยบาป” ของค่าย “ดาราวิดีโอ” ออกอากาศทางช่อง 7HD ด้วยฝีมือการกำกับการแสดงโดย “หลุยส์-สยาม สังวริบุตร” ผู้กำกับฝีมือฉมัง ที่งานนี้ขอการันตีความสนุกเข้มข้น ดุเดือด จนฉากสุดท้ายจริงๆ โดยเฉพาะจุดจบของคุณหญิงระย้าที่แฟนๆละครถามกันมาเยอะมาก ว่าจะได้รับผลกรรมแบบไหน ขนาดเจ้าตัวอย่าง “เจี๊ยบ-พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์” ยังบอกเลยว่า เกินคาดเดาอย่างแน่นอน รวมถึงบทสรุปของแต่ละตัวละครที่บอกได้คำเดียวเลยว่าพีคในพีค
เมื่อความแค้นที่ฝังลึกในหัวใจของคุณหญิงระย้า(เจี๊ยบ-พิจิตตรา) อย่าเกินจะปล่อยวาง หนทางเดียวที่จะยุติความแค้นนี้ได้คือความตาย แล้วตัวต้นเรื่องอย่างพระยาวิสุทธิ์(ฟลุค-เกริกพล) ก็คือหนึ่งในตัวแปรที่คุณหญิงระย้าจะต้องจัดการ โดยการใส่ยางชวนชมลงไปในอาหารมือสุดท้าย ที่คุณหญิงระย้าจะยัดเยียดความตายให้ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆหนูยิ้ม(ปิ่น-ชรินพร)ดันกลับมาหาคุณหญิงระย้ากับพระยาวิสุทธิ์ เพื่อจะบอกว่าเธอปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว และจะกลับมาดูแล ทำเอาพระยาวิสุทธิ์ดีใจมาก ยิ้มทั้งน้ำตา พยายามร้องตะโกนเรียกคุณหญิงระย้า ให้มาหาหนูยิ้ม แต่ระหว่างนั้นพระยาวิสุทธิ์ชวนหนูยิ้มกินข้าวที่คุณหญิงระย้าทำ มาลุ้นกันว่าสองพ่อลูกจะกินหรือไม่ ระหว่างนั้นอิ่ม(กุ๊กกิ๊ก กชกร)หวังดีเอาเมล็ดละหุ่งมาโรยที่เรือน เพื่อไล่หนู แมลงสาป จังหวะนั้นคุณหญิงระย้าลงไปที่ครัว เพื่อจะหยิบขันน้ำ ดันหน้ามืดเป็นลม พยายามหยิบยาลูกกลอนออกมากินแต่ดันทำลงพื้น คุณหญิงระย้าพยายามคว้านหาจนไปหยิบพลาดเอาเมล็ดละหุ่งมากิน งานนี้ทั้งสามคนพ่อแม่ลูก จะมีชะตากรรมจุดจบแบบไหน คุณหญิงระย้าจะได้รับผลกรรมสาสมหรือไม่ เตรียมสติให้มั่น ตั้งรับทุกแรงกระแทกให้ดี แต่บอกเลยว่ามีเซอร์ไพรส์แน่นอน แล้วมาลุ้น “รอยรักรอยบาป” (ตอนจบ) ไปพร้อมกันในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ เวลา 20.40 น. นะจ๊ะ
@ต่อกันที่ข่าวของเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนให้ไปสะพรึงกันแบบเต็มตาในโรงภาพยนตร์กันแล้ว สำหรับภาพยนตร์ “ธี่หยด 2” โดย ช่อง 3 และ M Studio จากเรื่องเล่าอันโด่งดัง สู่โรงภาพยนตร์ที่คอหนังตั้งตารอ โดยฝีมือผู้กำกับภาพยนตร์ คุ้ย ทวีวัฒน์ วันทา และ โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ คุณแป๊บ ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ ที่การกลับมาครั้งนี้ นอกจากบทบาทของ “ยักษ์” ที่นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ จะเพิ่มความเดือดแบบทวีคูณ ด้านน้องๆครอบครัวตัว “ย” อย่าง เดนิส เจลีลชา คัปปุน, จูเนียร์ กาจบัณฑิต ใจดี, เฟรนด์ พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ, มิ้ม รัตนวดี วงศ์ทอง และ นีน่า ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน ก็จะเข้มข้นไม่แพ้กัน เท่านั้นยังไม่พอ จัดเต็มด้วยนักแสดงเพิ่มเติมแบบครบครัน ที่ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป อาทิ มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, ท็อป ทศพล หมายสุข และ แฟรงค์ ธนัตถ์ศรันย์ ซำทองไหล ที่จะมาร่วมสร้างความเดือด และผสมผสานความหลอนให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์จนนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้อีกด้วย
เรื่องราว 3 ปีหลังการตายของ ‘แย้ม’ จะทำให้ทุกคืนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปอย่างไร 10 ตุลาคมนี้ ไปพิสูจน์กันได้ ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ พร้อมระบบ IMAX ที่ให้ผู้ชมได้สะพรึงเต็มตา กับการถ่ายทำด้วยสัดส่วนภาพพิเศษ เต็มจอ IMAX ตลอดทั้งเรื่อง และยังมิกซ์เสียงให้ได้หลอนกระหึ่มเต็มหู ในรูปแบบ IMAX ใหม่ล่าสุดแบบ 12-Channel ระบบเสียงรอบทิศทางยิ่งกว่าเดิม ถือเป็นการยกระดับวงการภาพยนตร์ไทยไปอีกขั้น กับ ธี่หยด 2 หนังไทยเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่จัดเต็มครบอรรถรส ทั้งภาพและเสียง บนจอยักษ์ IMAX สัมผัสประสบการณ์หลอนกว่าที่เคย โดยธี่หยด 2 รอดูวันที่ 10 ตุลาคมนี้ บนจอยักษ์ IMAX และระบบปกติ ในโรงภาพยนตร์เลยจ้า
@มากันที่ข่าวของ “วิโอเลต วอเทียร์” ป็อปสตาร์ที่มีไลน์การร้องพิเศษเฉพาะตัว เธอประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินมาอย่างต่อเนื่องตลอดการทำงานในวงการกว่า 10 ปี เธอสร้างผลงานเพลงฮิตทั้งไทย และสากลออกมามากมาย จนได้รับคำชื่นชมจากศิลปินร่วมวงการ สื่อมวลชน รวมไปถึงแฟนเพลง และถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 “วิโอเลต วอเทียร์” ปล่อยซิงเกิลในชื่อ “SMOKE” เพลงอิเล็กทรอนิกส์ป็อป สุดเซ็กซี่ กับลีลาท่าเต้นที่เธอสร้างตำนานท่าเลื้อยตัว จนกลายเป็นไวรัล และยากจะหาคนเลียนแบบ แถมปล่อยมาเพียง Audio ไม่มี MV แต่กลับกวาดยอดวิวจากคนเข้าชมสูงถึง 92 ล้านวิว ก่อนจะตอกย้ำความฮอตของเธอด้วยการปล่อยอัลบั้มเพลงสากลครั้งแรกในชีวิตภายใต้ชื่อ “Glitter and Smoke” มีเพลงดังที่ทุกคนคุ้นเคยไม่ว่าจะเป็นเพลง I’d Do It Again, Drive หรือ Brassac ฯลฯ เรียกว่าวินาทีนั้นชื่อของ “วิโอเลต วอเทียร์” ถูกพูดถึงอย่างหนาหู ในฐานะศิลปินลูกครึ่งไทย-เบลเยียม ที่เตรียมก้าวสู่ระดับ Global อีกคนของวงการเพลง
มาถึงปี 2022 เธอประกาศปล่อยอัลบั้มเพลงไทยในชื่อ “Your Girl” เธอมีเพลงดังที่ใครหลายคนร้องตามได้ทันที ได้แก่ ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข (This Time), กักตัว (Quarantine), ยื้อเพื่อ (Be Honest) ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เสริมและส่งให้ชื่อของ “วิโอเลต วอเทียร์” เติบโตและก้าวสู่การเป็นป็อปสตาร์ท็อปฟอร์มของวงการเพลง มาถึงวันนี้ผ่านมา 4 ปี “วิโอเลต วอเทียร์” เป็นอีกหนึ่งศิลปินระดับ Global ที่ยังคงหลงใหลในเสียงเพลง และยังคงสร้างผลงานเพลงออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังอยู่เสมอ เธอปล่อย EP ALBUM เพลงสากลอีกครั้ง ในชื่อ “CALL ME DRAMATIC” กับโมเม้นท์ที่อยากสาดทุกอารมณ์แบบไม่มีฟิลเตอร์เจือปน เรียกได้ว่า EP ALBUM นี้คุณจะเห็น “วิโอเลต” แสดงออกในเวอร์ชั่นสุดโต่งแบบเกินร้อย ที่ทุกคนจะต้องเอ็นจอยไปกับเธอ ซึ่งเธอแชร์มุมมองต่อคอนเซ็ปต์ของ EP ALBUM “CALL ME DRAMATIC” เอาไว้ว่า “CALL ME DRAMATIC คือ EP ALBUM ที่วีเลือกเล่ามู้ดของเพลงให้เป็นมู้ดของหนัง มีกิมมิคและเรื่องราวของหนังหลายเรื่องหลายแนวแทรกอยู่ในเนื้อเพลง เหมือนคุณกำลังฟังเพลง ไปพร้อมๆ กับการดูหนังหลายอารมณ์เลยค่ะ อย่างรูป Cover Art วีเลือกใช้โทนสีแดง เพราะมันแสดงออกถึงความ DRAMATIC ความฉูดฉาด ความสด เหมือนเวลาเราเข้าไปดูหนังในโรงหนังเรามักจะเห็นสีแดงอยู่เสมอ ซึ่งวีรู้สึกว่าแต่ละเพลงใน EP ALBUM มีเรื่องราว และอารมณ์เพลงไม่เหมือนกัน วีอยากให้ทุกคนได้ลองฟังกัน เชื่อว่าจะสัมผัสถึงมู้ดของหนัง ผ่านเนื้อเพลงแต่ละเพลงจริงๆ ค่ะ”
นอกจากนี้เธอยังบอกว่า ใครที่ตั้งใจแสดงออกทางความรู้สึก หรือความคิดของตนเอง สามารถใช้เพลงใน EP ALBUM “CALL ME DRAMATIC” เพื่อเป็นสื่อกลางแทนความรู้สึก แทนอารมณ์ในช่วงนั้นของคุณได้เลย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรักแฟนคุณมาก และเขาดีมากจนคุณอยากจะอวดให้โลกรู้ว่า คุณอิจฉาตัวเองเหลือเกิน ที่มีแฟนที่รักคุณได้มากขนาดนี้ เชื่อว่าเพลง “ENVY” จะเป็นเพลงที่ตอบโจทย์ทางอารมณ์ดราม่านั้นของคุณ และถ้าใครที่ชื่นชอบการแสดงออกทางอารมณ์ที่สุดโต่งอยู่แล้ว เชื่อว่า EP ALBUM “CALL ME DRAMATIC” จะแทนความรู้สึกเหล่านี้ของพวกคุณอย่างแน่นอน …. เรามายอมรับ และเอ็นจอยไปกับเรื่องราว DRAMATIC กันเถอะ “WELCOME TO OUR DRAMA” นั่นเอง
@ยาวๆกันที่ข่าวของคู่จิ้นที่กระแสไม่เคยตกเลยสำหรับ “ซี – พฤกษ์ พานิช” และ “นุนิว – ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์” ที่เคยสร้างความฮือฮาไว้กับภาพยนตร์ที่ยังตราตรึงอยู่ในใจแฟน ๆ จนถึงทุกวันนี้อย่าง “ดับแสงรวี” เรื่องราวของ แสงรวี (รับบทโดย นุนิว ชวรินทร์) อาศัยอยู่กับหลวงลุงที่วัดในจังหวัดอยุธยา เมื่ออายุครบ 21 ปี หลวงลุงได้ส่งให้ไปอยู่กับเพื่อนที่พระนคร ซึ่งก็คือ คฤหาสน์สิทธิกรกัลป์ บ้านของ พระเพลิง (รับบทโดย ซี พฤกษ์) ที่ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ และซินแสประจำตระกูลได้เอ่ยปากเตือนผู้เป็นพ่อแม่ว่า พระเพลิง กำลังจะเข้าสู่ช่วงเบญจเพสจะมีเคราะห์หนัก หากไม่ได้ผูกดวงกับคู่ชะตาภายในเร็ววันจะมีอันเป็นไป โดยผู้ที่จะมาเป็นคู่ชะตาจะต้องไม่ใช่สตรีเพศ ไม่เกิดในพระนคร และยังต้องมีอายุตกเลข 1 ปี ถึงจะสามารถผูกชะตาเข้าด้วยกันได้ โดยคนที่เป็นคู่ชะตากันดวงซะตาจะผูกพันเกี่ยวโยงกันทั้งคู่ หากอยู่รอดปลอดภัยก็จะอยู่รอดปลอดภัยด้วยกัน หากตกต้องภัยอันตรายก็จะตกต้องภัยอันตรายไปทั้งคู่ ดูได้ทางทรูวิชั่นส์ และแอปพลิเคชันทรูวิชั่นส์ นาว (ใหม่) ทางช่อง True Thai Film (137, 236)เลยจ้า
@มากันที่ข่าวของ เพิ่งผ่านวันคล้ายวันเกิดครบ 37 ปีมาหมาดๆสำหรับศิลปินมาลัยเงินล้าน ”ตรี ชัยณรงค์“ เลยขอปล่อยเพลงใหม่มาให้แฟนๆได้อินกัน ท่ามกลางบรรยากาศช่วงหน้าฝนแบบนี้กับ ”แม่นคำเจ้าเว้า“ เพลงอกหักช้ำๆ ที่เล่าถึงการถูกบอกเลิกจากคนรัก แต่ก็จะยอมอยู่ยอมเจ็บเพราะไม่สามารถทำใจได้ และขอโอกาสให้กลับมารักกันอีก แน่นอนเพลงแนวนี้ ”ตรี ชัยณรงค์“ ใส่อารมณ์แบบเต็มแม็กซ์จนหลายคนที่เข้าไปชมและฟังก็มาคอมเมนต์มากมาย อาทิ “นักร้องเสียงบาดอารมณ์มาก , เพลงแนวนี้เหมาะกับเสียงของตรีค่ะ , เสียงนี้ เจ็บสะใจจริงๆ , คำเจ็บๆมันเข้าไปในหัวใจเลย เป็นต้น ดูทางแกรมมี่โกลด์เลยจ้า
@ปิดท้ายกันที่ข่าวของมหาบัณฑิตป้ายแดง “อิสร์ อิสรพงศ์” หรือ “อิสรพงศ์ ดอกยอ” ศิลปินสังกัด แกรมมี่ โกลด์ ที่เข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2566 คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกขับร้อง สาขาดุริยางค์ตะวันตก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ อิสร์ ตั้งใจทำในชีวิตได้สำเร็จนั่นเอง
อิสร์ อิสรพงศ์ กล่าวว่า “ดีใจมากๆ เรียนจบแล้วครับ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งความฝันที่อยากจะทำให้ครอบครัว เพราะว่าคุณพ่ออยากจะให้เราเรียนต่อ ป.โท พอมีโอกาสเราก็อยากทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจด้วยครับ สำหรับปริญญาโทใบนี้ ถือว่ายากมากครับ เพราะตอน ป.ตรี ที่เรียนมหิดล ตอนนั้นยังไม่ได้มีการทำเล่มวิทยานิพนธ์ เพราะว่าเราทำเป็นคอนเสิร์ตจบ แต่ว่าพอมาเรียน ป.โท ต้องมาทำวิทยานิพนธ์ ที่มีขั้นตอนหลายๆอย่าง ที่อิสร์ไม่เคยทำมาก่อน ก็เลยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับเรา เพราะเราต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เรียกว่าทั้งหนักและเหนื่อย จนบางครั้งทำให้เราท้อที่ต้องทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน แต่อิสร์ก็มีแรงฮึดสู้ด้วยกำลังใจจากทุกๆคนครับ อิสร์ อยากขอบคุณครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ และทุกๆคนเลย ที่คอยเป็นกำลังใจให้ตลอดมา ขอบคุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน ครูปี๊บ ครูรี ที่คอยเป็นที่ปรึกษามาโดยตลอด รวมไปถึงสำนักการสังคีตกรมศิลปากร ที่ให้เวลาเราสำหรับทำการศึกษาครั้งนี้ด้วย ขอบคุณแฟนเพลงแฟนคลับทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจเสมอมา และขอขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกๆคนที่คอยเป็นกำลังใจ ถามไถ่เรื่องเรียนกันมาตลอดด้วยครับ”
แหมๆ หมดเวลาอีกแล้ว ยังไงใครอยากอ่านข่าวดีต่อใจ รบกวนรออิชั้นฉันนะคะ ขอเวลาไปหาข่าวก่อนค่า แล้วพบกันจ้า
คอลัมน์ “เม้าท์ 2 เม้าท์”
โดย คนสวยหลักสี่
