เริ่มวันแรกด้วยการมุ่งหน้าสู่ราชบุรีเช็กอินที่แรกที่ “พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน” สถานที่จัดแสดงนิทรรศการ “หนังใหญ่” พร้อมประวัติความเป็นมาและกรรมวิธีการแกะสลักตัวหนังใหญ่ มีตัวหนัง 313 ตัว อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ส่วนใหญ่เป็นตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ แบ่งเป็นชุด หนุมานถวายแหวน ชุดสหัสกุมาร และเผากรุงลงกา ชุดศึกอินทรชิต ครั้งที่ 1 เป็นโครงการตามพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงเห็นคุณค่าในการแสดงและศิลปะหนังใหญ่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการละเล่นชั้นสูง ทรงพระราชดำริให้วัดช่วยอนุรักษ์ตัวหนังใหญ่ ซึ่ง ท่านพระครูศรัทธาสุนทร (หลวงปู่กล่อม) อดีตเจ้าอาวาสวัดขนอนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นผู้สร้างขึ้น พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ส่วนการแสดงเชิดหนังใหญ่โดยนักเรียนจากโรงเรียนวัดขนอน จะมีในวันเสาร์ เวลา 10.00 น. วันอาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 11.00 น. เพียงรอบเดียว

จากนั้นไปเดินเล่นใน “ย่านเมืองเก่าโพธาราม” อำเภอใหญ่ของราชบุรี ที่เคยรุ่งเรืองด้านการค้าที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยเหล่านั้น ย้อนรอยอดีตผ่าน 3 ตลาดของโพธาราม ตั้งแต่ “ตลาดบน” กับเรือนแถวไม้เก่าที่ถนนเนื่องประดิษฐ์ แวะ “วิก ครูทวี” อดีตโรงหนัง เก่าแก่สร้างด้วยคอนกรีตสองชั้น ห้องภาพเสถียรทอง ห้องถ่ายรูปเก่าแก่เจ้าเดียวของโพธารามที่ยังคงความคลาสสิก แล้วไปที่ “ตลาดกลาง” ชุมชนเล็ก ๆ หลังสถานีรถไฟโพธารามที่งดงามด้วยตึกปูนและตึกไม้ ต่อด้วย “ตลาดล่าง” เรือนแถวไม้ถนนโชคชัยและถนนศรีสวัสดิ์

ออกไป “ณ สัทธา อุทยานไทย” ธีมพาร์คที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นไทยในพื้นที่กว่า 42 ไร่ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ทั้งน้อยใหญ่อายุนับสิบปี เสร็จแล้วไป “ถ้ำค้างคาว” ชมฝูงค้างคาวนับล้านตัวที่กรูกันบินออกจากถ้ำพวยพุ่งเป็นสายสีดำนานนับชั่วโมงทุกเย็นช่วงใกล้พลบค่ำ เวลาประมาณ 17.30 น. จากเขาช่องพราน ช่วงฤดูร้อนฝูงค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันออก ในช่วงฤดูหนาวฝูงค้างคาวบินไปทางทิศตะวันตก

มื้อเย็นอิ่มอร่อยที่ร้านดังแห่งราชบุรี “ร้านอาหารเจ๊ออน” พลาดไม่ได้กับเมนูปลาช่อนเกยตื้น ปลาที่ทอดจนมีสีเหลืองกรอบ ฟู ตามด้วยเมนูเด็ด ผัดฉ่าลูกชิ้นปลากรายเนื้อเหนียวนุ่ม ไม่มีกลิ่นคาว

วันที่สองเริ่มด้วย “อุทยานหินเขางู” หรือพระพุทธฉายถ้ำฤๅษีเขางู ภายในถ้ำพบพระพุทธรูปจำหลักติดผนังถ้ำ พระพุทธฉายถ้ำฤๅษีเขางู เป็นพระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาท ปางแสดงธรรมเทศนาตามแบบพุทธศิลป์สมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-13) และพระพุทธรูปหินทรายศิลปะสมัยอยุธยาหลายองค์ นอกจากนี้ยังพบรอยพระพุทธบาททำด้วยศิลาแลงประดิษฐานอยู่ในวิหาร อยู่บนยอดเขางู สูงประมาณ 128 เมตร ถ้ำฝาโถ ห่างจากถ้ำฤๅษีเขางูไปทางตะวันตกราว 250 เมตร มีภาพสลักบนผนัง

เปลี่ยนบรรยากาศไปสนุกสนานกับกิจกรรมเมืองโอ่งที่ “เรื่องของโอ่ง” ด้วยความมุ่งมั่นในการสืบสานศิลปวัฒนธรรม การปั้นโอ่งมังกรของจังหวัดราชบุรี ในรูปแบบดั้งเดิมตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน จึงยังคงมีการปั้นโอ่งด้วยวิธีดั้งเดิม พร้อมจัดเป็นนิทรรศการให้เยี่ยมชมและมีกิจกรรมเพนต์โอ่งใบน้อยเป็นที่ระลึก เดินชมจนเหนื่อยแล้วแนะนำให้ลิ้มลองเมนูเด็ดของ “ร้านอาหารโอ่งข้าวโอ่งน้ำ” ร้านอาหารได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงโอ่ง

จากนั้นไป “วัดดอนขนาก” ที่ประดิษฐานพญานาค 9 ตระกูล คนที่มีความเชื่อและเคารพในองค์พญานาคบอกเลยว่าห้ามพลาด นอกจากนี้ยังมีองค์พระนอนขนาดใหญ่สีขาวที่มีความงดงาม ต่อด้วย “พระปฐมเจดีย์” เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของนครปฐม เดิมเรียกว่า พระธมเจดีย์ เป็นพระสถูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ว่ากันว่า ถูกสร้างและปฏิสังขรณ์มาอย่างน้อย 3 ครั้งแล้ว และไม่มีใครทราบว่าพระปฐมเจดีย์ถูกสร้างในยุคสมัยใด

มื้อเย็นลิ้มลองอาหารที่ได้บรรจุในมิชลินไทยแลนด์อย่าง “ร้านอาหารบ้านริมบึง” กับเมนูกุ้งผัดซอสมันกุ้งรสเลิศและปลากะพงทอด น้ำปลา เสิร์ฟพร้อมยำมะม่วง

เช้าวันที่สามต่อกับร้านอาหารมิชลินที่ “ข้าวมันไก่นายโฮ” เจ้าของร้านชาวสิงคโปร์ใช้สูตรข้าวมันไก่ของครอบครัว เลือกใช้ไก่สามสายพันธุ์ เนื้อไก่หนังบางราดด้วยซีอิ๊วขาวและงา ทั้งนุ่มและหนึบกำลังดีโปะบนข้าวมันร้อน ๆ ที่ปรุงรสด้วยน้ำซุปไก่รสกลมกล่อม กินคู่ซอสปรุงรสที่ทำจากเต้าเจี้ยว พริกขี้หนู และเครื่องเทศ

แล้วออกไป “ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ @สวน สามพราน” เรียนรู้วิถีเกษตรอินทรีย์ที่ “ปฐมออร์แกนิก ฟาร์ม” ก่อนจะช้อปที่ “ตลาดสุขใจ” ตลาดเกษตรอินทรีย์ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรนำสินค้ามาจำหน่ายด้วยตัวเองในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ จากนั้นไปช้อปผลิตภัณฑ์ชุมชนกันต่อที่ “วัดไร่ขิง” แล้ว ไปอิ่มอร่อยกับ “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ” อีกร้านมิชลิน โดดเด่นด้วยลูกชิ้นปลาและเกี๊ยวปลาทำเองแบบไม่ใส่ผงชูรส ผสมผสานความอร่อยจากปลาสามชนิด ทั้งปลาอินทรี ปลาหางเหลือง ปลาแฮร์ริ่ง ทำด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิมจึงนุ่มเด้งอร่อย ไร้กลิ่นคาว

ปิดท้ายที่ “หอภาพยนตร์” สถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ที่รวบรวมข้อมูลและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของวงการภาพยนตร์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติม Call Center 1672 หรือติดตามความเคลื่อนไหวทาง IG : 1672travelbuddy, TikTok : @1672travelbuddy, Twitter : @tat1672, www.tourismthailand.org และ www.tatcontactcenter.com