ที่ ห้องประชุม 407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา เกียกกาย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. นายเลิศศักดิ์ พัฒนาชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปปง.) ได้เรียกประชุมคณะ กมธ.ปปง. ครั้งที่ 36 พิจารณาเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบขบวนการฟอกเงินข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอันเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน และการฟอกเงินข้ามชาติผ่าน Payment Gateway ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อเนื่อง จากการประชุมครั้งที่ 35 ที่ผ่านมา ตามคำร้องเรียนสงสัยการนำเข้าสินค้า แฝงปัญหาการฟอกเงิน ครั้งนั้น มีผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำข้อมูล กฎหมาย หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตในการดำเนินธุรกิจ กรณีนิติบุคคลหรือมีฐานะเป็นนิติบุคคลต่างด้าว รวมถึงการถือหุ้นคนต่างด้าว ทำการค้าในระบบอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม หรือแพลตฟอร์มการทำธุรกิจจากต่างประเทศ เป็นข้อมูลประกอบคำร้องเรียน ครั้งนี้ได้เชิญ อธิบดีกรมศุลกากร และสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่ได้ส่งผู้แทนเข้าให้ข้อมูล

สำหรับข้อมูลที่ได้จึงเป็นรูปแบบการหลีกเลี่ยงภาษีและการนำเข้าที่กระทบความมั่นคงของชาติ ผ่านเครือข่ายการขนส่งที่หลบเลี่ยงกฎหมาย (พ.ร.บ.ศุลกากร 2560) เกี่ยวพันทั้งทาง บก น้ำ และอากาศ ใน 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบ 1.อีคอมเมิร์ซ (ยกเว้นภาษี) 2. นำเข้าโดยสิทธิพิเศษ FTA ยกเว้นภาษีนำเข้าเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศ (ยกเว้นภาษี) 3. การนำเข้าแบบปกติ คือการนำเข้าจ่ายภาษีปกติ รวมไปถึงการขนส่ง ที่ผู้รับจ้างขนส่งจะไม่รู้ว่าสินค้าที่นำส่งนั้นภายในตู้คอนเทเนอร์ไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นหากนำส่งสินค้าที่มียาเสพติดหรือสินค้าที่ละเมิด ไม่เสียภาษี ผู้รับจ้างขนส่งก็จะตกเป็นจำเลยสังคมทันที ทุนต่างชาติใช้นอมินีในการเป็นตัวแทนทุนจีนข้ามชาติ ปัญหาจึงเด่นชัดที่ทุนจีนเข้ามาสร้างผลกระทบให้กับธุรกิจภายในประเทศไทย ที่ต้นทางคือการนำเข้าสินค้าก็คือด่านศุลกากรจนไปเกี่ยวพันปัญหาข้อสงสัยถึงการฟอกเงิน

นายเลิศศักดิ์ ประธาน กมธ.ปปง. เปิดเผยว่า ข้อมูลที่ได้ทำให้รู้ว่ารูปแบบการค้าขายของกลุ่มทุนจีนหรือทุนต่างชาติเข้ามากระทบเศรษฐกิจของคนไทย เพราะสินค้าราคาถูกทำให้นักธุรกิจไทยไม่สามารถแข่งขันได้ยังลามไปถึงปัญหาการนำเข้าของกรมศุลกากร ข้อมูลที่ได้จากผู้แทนศุลกากร และสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ถือเป็นประโยนช์ในการตรวจสอบจะมีการศึกษาแนวทางการแก้ไขต่อไปในอนาคต ในส่วนกรณีข้อสงสัยไปถึงกระบวนการฟอกเงิน เรื่องนี้จะยังมีการพิจารณาเพื่อสรุปผลหาแนวทางการตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้ กมธ.ปปง. จะร่วมหาแนวทางการศึกษาเพื่อหาทางออกในมาตรการแก้ไขเพื่อความถูกต้องให้ลดปัญหาการเอาเปรียบของกลุ่มทุนต่างชาติเพื่อนักธุรกิจพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป.