เมื่อวันที่ 25 ก.ย.เว็บไซต์ soha รายงานกรณีของหนุ่มจีนวัย 40 ปีรายหนึ่ง ชื่อนายหลิว ได้เดินทางเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล หลังจากสังเกตว่าผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลงแปลกๆ ในตอนแรกมีจุดเล็กๆ ปรากฎขึ้นมาเพียงจุดเดียว แต่ต่อมาจุดนั้นก็เริ่มแพร่กระจายและมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเข้ารับตรวจและทำการทดสอบตางๆ ที่จำเป็น แพทย์กล่าวว่า “เราพบว่าคุณมีอาการเริ่มแรกของมะเร็งผิวหนัง”

เมื่อได้ยินคำวินิจฉัยนี้ ใบหน้าของนายหลิวก็ซีดลง เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง และกล่าวหาหมอซ้ำอีกครั้งว่า “เป็นไปได้ยังไง… ผมใส่ใจสุขภาพตัวเองอย่างใกล้ชิด!

ทางคุณหมอเลยว่า “คุณมีนิสัยพิเศษในการทำกิจกรรมประจำวันบ้างไหม”

นายหลิวคิดอยู่นานจึงบอกว่าตนเองมักทำงานยุ่งอยู่เสมอ ดังนั้นจึงซักเสื้อผ้าทุกประเภทพร้อมกัน ไม่ว่าสีหรือวัสดุจะแตกต่างกันเพียงใดก็ตาม และเพื่อประหยัดเงิน เขามักจะใช้ผงซักฟอกราคาถูกตามท้องตลาดเสมอ โดยที่ไม่ได้คาดคิดว่านิสัยการใช้ชีวิตที่ดูเรียบง่ายจะนำผลร้ายแรงมาสู่สุขภาพของตนเอง

ในเรื่องนี้แพทย์กล่าวด้วยความเสียใจว่า “คุณหลิว แม้ว่าคุณจะทำเช่นนี้เพื่อประหยัดเวลาและเงิน แต่วิธีการซักนี้อาจเป็นอันตรายต่อผิวของคุณได้ ผงซักฟอกคุณภาพต่ำอาจมีส่วนผสมทางเคมีที่เป็นอันตราย การสัมผัสกับส่วนผสมเหล่านี้เป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีการทำความสะอาดที่เหมาะสม สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคผิวหนังได้จริงๆ”

คุณหมอยังบอกด้วยว่า เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพผิว คนส่วนใหญ่อาจนึกถึงปัจจัยต่างๆ เช่น แสงแดด การสัมผัสสารเคมี หรือพันธุกรรม อย่างไรก็ตาม นิสัยบางอย่างในชีวิตที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย เช่น วิธีซักเสื้อผ้า จริงๆ แล้วก็มีผลกระทบต่อสุขภาพผิวที่ไม่สามารถละเลยได้เช่นกัน

เหมือนในกรณีของนายหลิว สิ่งที่อันตรายที่สุดคือการใช้ผงซักฟอกไม่ทราบที่มา สินค้าราคาถูกบางชนิดในท้องตลาดอาจมีผงซักฟอกเคมีผสมอยู่ แม้ว่าส่วนผสมเหล่านี้จะขจัดคราบ แต่ก็อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้เช่นกัน

ตัวอย่างเช่น น้ำยาซักผ้าบางชนิดมีส่วนผสมเช่น ซัลเฟต (Sulfate) และฟอสเฟต (Phosphate) มากเกินไป แม้ว่าจะสามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าได้จริง แต่การสัมผัสผิวหนังเป็นเวลานานจะทำลายเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิวหนัง ทำให้เกิดอาการแห้ง คัน ผิวหนังอักเสบ ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง และอาจทำให้เกิดมะเร็งได้

นอกจากนี้ วงจรการซักในเครื่องซักผ้าแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพอที่จะขจัดสารเคมีที่ตกค้างออกจากเสื้อผ้าได้หมด ซึ่งหมายความว่าเสื้อผ้าที่ซักแล้ว ยังคงมีสารเคมีเมื่อสวมใส่บนร่างกาย ส่วนผสมทางเคมีที่ตกค้างเหล่านี้สามารถสัมผัสโดยตรงกับผิวหนัง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว

ขอบคุณเว็บไซต์ soha