สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ออกแถลงการณ์ ว่ามีการยิงจรวดและขีปนาวุธหลายสิบลูก โจมตีฐานประจำการทางทหารในภาคเหนือของอิสราเอล ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงขีปนาวุธและโดรนรวมเกือบ 180 ลำ ข้ามพรมแดนจากทางใต้ของเลบานอน มายังภาคเหนือของอิสราเอล ส่งผลให้ประชาชนในเมืองไฮฟา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางตอนเหนือของอิสราเอล


ขณะที่กองทัพอิสราเอลรายงานว่า มีการยิงขีปนาวุธมากกว่า 50 ลูก ข้ามพรมแดนจากภาคใต้ของเลบานอนมายังภาคเหนือของอิสราเอล ภายในระยะเวลาเพียง 10 นาที เมื่อช่วงเช้าชองวันอังคาร ซึ่งระบบป้องกัยของอิสราเอลสามารถสกัดไว้ได้แทบทั้งหมด และยืนยันว่า การโจมตีเป้าหมายมากกว่า 1,300 แห่ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สามารถสังหารสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ “จำนวนมาก”


ด้านกระทรวงสาธารณสุขเลบานอนรายงาน ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งใหญ่ของอิสราเอล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 558 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กอย่างน้อย 50 ราย และผู้หญิงอย่างน้อย 94 คน นอกจากนี้ ประชาชนอีกหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย


สถานการณ์ตามแนวชายแดนระหว่างภาคใต้ของเลบานอน กับภาคเหนือของอิสราเอลในเวลานี้ ถือว่ามีความรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน เมื่อปี 2549 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,600 รายในเลบานอน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ส่วนในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตประมาณ 160 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน


อย่างไรก็ตาม การที่สงครามครั้งนั้นที่กินเวลานานประมาณ 1 เดือน ยุติตามคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ซึ่งไม่ใช่ข้อตกลงหยุดยิง จึงหมายความว่า อิสราเอลและเลบานอนยังคงมีสถานะเป็นคู่สงครามต่อกัน.

เครดิตภาพ : AFP