เป็นอีกหนึ่งคนที่มากความสามารถและน่าจับตามองในขณะนี้ สำหรับพระเอกหนุ่ม “ภณ ณวัสน์” ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาเปิดใจว่าตนนั้นไม่โสดแล้ว ก็ทำเอาแฟนคลับหลายคนแห่เปิดวาร์ปสาวที่จับจองหัวใจของหนุ่มภณไว้ได้ นั่นก็คือ “คุกกี้ ญาดา” บอกเลยว่าทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมาก เพราะว่ามีไลฟ์สไตล์การออกกำลังเหมือนกันนั้น

ล่าสุดหนุ่มภณ ได้มาร่วมงานแถลงข่าวรอบกาล่า ภาพยนตร์เรื่อง 4ทรชนคนอันตราย ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามเกี่ยวกับแม่ว่าอย่างไรกับเรื่องความรักบ้าง พร้อมกับเผยความรู้สึกที่ชาวเน็ตแห่เปิดวาร์ปหวานใจจนเจอ โดยหนุ่มภณได้เผยว่า

“จริงๆ ผมชอบวิ่งอยู่แล้วก็เลยอยากจะเก็บเหรียญทุกสนาม มันมี 6 รายการทั่วโลก อันนี้เป็นสนามที่ 2 ก็ลงวิ่ง 42 กิโลทั้งคู่ครับ ก็ต้องมีแผนการซ้อม พอเริ่มเดือนท้ายๆ ยิ่งเหนื่อยมาก แต่ก็เริ่มผ่อนแล้วครับ เพราะต้องเก็บแรงที่จะแข่งจริงวันอาทิตย์นี้ เป้าหมายตอนนี้ก็อยากจะเก็บให้ครบ 6 ดวงครับ มีที่โตเกียวไปแล้ว ที่สองคือเบอร์ลิน แล้วเดี๋ยวก็จะมีลอนดอน อีก 3 ที่ก็จะมีชิคาโก้ บอสตัน นิวยอร์กครับ เขาเองก็อยากเก็บด้วยครับ ถ้ามีโอกาสก็คงไปด้วยกัน ฉายาคู่รักนักวิ่ง (หัวเราะ) ครับ ก็เราวิ่งเนอะ เล่นไตรกีฬาด้วย ก็ได้ฟังจากที่เขาให้สัมภาษณ์อยู่ครับ คือที่ต้องตื่นไปวิ่งกันตั้งแต่ตี 4 เพราะมันต้องซ้อมครับ ก็เจอกันเป็นเรื่องปกติ แต่ต่างคนต่างไปเจอกันที่โน่นครับ จริงๆ มันไม่เกี่ยวกับผมหรอก เขาชอบส่วนตัวอยู่แล้ว เขาเข้าก่อนผมอีก เขามีความตั้งใจอยู่แล้วว่าอยากจะเก็บ 6 สตาร์ให้ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าถามว่านอกจากวิ่งแล้วมีอย่างอื่นที่เหมือนกันอีกไหม ก็มีหลายๆ อย่างที่คล้าย และมีความต่างก็มีนะ ต่างก็สนุกดี เป็นสีสัน (หัวเราะ) ที่ชอบเหมือนกันก็คือเรื่องการออกกำลังกายนี่แหละครับ ชอบการโฟกัสเวลาอยู่กับตัวเอง ความต่างก็เรื่องการกิน อย่างเช่นผมกินผักผลไม้ได้ทุกอย่าง แต่เขาชอบบางอย่าง แล้วก็ชอบอยู่แค่นั้น ที่เหลือก็จะไม่กิน

เขาบอกว่าผมชอบดุเขา จะเป็นในเรื่องของกินมากกว่าครับ คือเราค่อนข้างจะมีความเป๊ะ อาจจะเป็นข้อเสียก็ได้นะ แต่เราต้องมีความเป๊ะในเรื่องตารางซ้อม เพราะเราต้องการผลที่มันเอฟเฟกต์ทีฟ มันก็ต้องมีการวางแผน แต่เรื่องอุปกรณ์เขามากกว่าผมอีก ผมจะเป็นสายเพอร์ฟอร์แมนซ์มากกว่า แต่เรื่องการวิ่งไม่มีใครห้ามใคร ต่างก็สนับสนุนซึ่งกันและกัน ส่วนปัญหาว่าถ้าวิ่งมากๆ อาจจะเกิดเรื่องไขข้อเนี่ย จริงๆ เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ตอนนี้เรามีเทคโนโลยีที่มากกว่านั้น เรื่องรองเท้าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็ดีมากๆ และเราไม่ได้วิ่งอย่างเดียว เรามีการเวทกล้ามเนื้อเพื่อให้มีความแข็งแรงมากขึ้นในการช่วยพยุงน้ำหนักที่กระแทกลงไป มันมีวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยด้วย แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีอุบัติเหตุนะครับ ก็ภาวนาว่าอย่ามีเลยครับ (หัวเราะ) คือเราก็พยายามรอบคอบที่สุดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง อย่างเช่นการวอร์ม ถ้าเราวิ่งระยะไกลแล้วเราไม่ได้วอร์ม หรือเติมสารอาหารไม่เพียงพอมันก็จะบาดเจ็บได้ เราก็ต้องคำนึงถึงตรงนี้ด้วย วิ่งมาราธอนมันคือการวางแผนระยะยาวครับ เรื่องของพาร์ตการซ้อมต้องยังไง พาร์ตแข่งยังไง ก็ต้องวางแผนให้ดี เพราะครั้งนี้ 42 กิโล มันยาวมากแต่การวิ่งไตรกีฬา ต่างคนต่างชอบกันมาอยู่แล้ว ก็เลยได้มาเจอกัน แต่เขาจะไปไตรกีฬาด้วย ผมยังไม่เคยลงเลยนะ แต่ผมชื่นชอบอยู่แล้ว แต่ผมสมัครไว้แล้วช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ได้ลงแข่งไตรแรก แต่เขาไปไตรที่สองแล้ว เขาเคยลงมาก่อนหน้านี้แล้ว

ถ้าถามในส่วนที่เปิดตัวแฟนคลับว่าอย่างไรบ้าง งงไหมที่เขาเปิดวาร์ปกัน ก็ไม่งงนะที่เขาเปิดวาร์ปกันจนเจอ เพราะเราก็ไม่ได้ปิดอยู่แล้ว ทุกคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ผมไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว ถ้าจะมีข่าวก็ไม่เป็นไรพอโดนถามเรื่องความรักตอนนี้ก็เริ่มชินแล้วนะ แฟนคลับเขาก็อยากเห็นโมเมนต์บ้าง ถามว่าแม่ว่ายังไง แม่ก็บอกว่าค่อยๆ ไป (หัวเราะ) เรื่องพาไปเจอแม่ ก็ค่อยๆ ไป ไม่รีบๆ คือแม่ก็ห่วงแหละ ไม่ได้หวงหรอก อยากให้ดูแลตัวเองดีๆ ผมก็ไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้กับแม่ ส่วนมากจะเป็นเรื่องงานมากกว่า รอให้มันเข้าที่เข้าทางก่อนค่อยว่ากัน ส่วนในเรื่องละครล่าสุด ที่ต่อยมวยฉ่ำครับ แต่โชคดีที่เราวิ่งอยู่แล้ว ฉะนั้นเรื่องของร่างกายเราก็เตรียมความพร้อมตลอด ถามว่าต่อยมวยเหนื่อยกว่าวิ่งไหม มันก็เป็นกีฬาที่เหนื่อยมากๆ กีฬานึงเลย เราก็เตรียมความพร้อมไประดับนึงเพื่อพร้อมจะต่อยได้เป็นวันๆ เพราะเราไม่ใช่แค่ต่อย 3 ยก 5 นาทีอะไรแบบนั้น แต่เราต่อยกันทั้งวัน เพราะการถ่ายทำมันยาก ซึ่งความยากของมวยไทยก็คือต้องใช้หมัด เท้า เข่า ศอกทุกอย่าง คือใช้ทั้งตัว เพราะฉะนั้นเราต้องวอร์มดีๆ ไหนจะต้องคุมอาหารอีก แต่ถ้าไม่กินก็ไม่มีแรงต่อยมวยอีก ก็ต้องมีอาหารที่จะมาเป็นพลังงานได้โดยที่เราไม่ได้อ้วนมาก ส่วนเรื่องบอดี้ก็เอาซิกแพ็กชัดไว้ก่อน ส่วนอื่นค่อยปั้นหน้างานได้ครับ เพราะซิกแพ็กทุกคนมีอยู่แล้ว แต่แค่ไขมันบังอยู่ ถ้าเอาไขมันออกไปก็จะเห็นซิกแพ็กชัด แต่ส่วนอื่นเราปั้มหน้าเซ็ตได้ พวกไหล่ อกมันปั๊มได้ ปั๊มแป๊บเดียวก็ขึ้นเลย ช่วงที่ถ่ายเรื่องนี้ก็ต้องคุมอาหารครับ คุม 5 วัน แล้วก็ปกติสัก 2 วัน ก็กินกับข้าวบ้านทั่วๆ ไป ผัดผัก ไข่ต้ม แต่หมูกระทะผมไม่ค่อยกิน รู้สึกร่างกายเดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยรับแล้ว ผมก็เลยไม่ค่อยชิน คือไม่ได้กินเพราะเริ่มมาดูแลตัวเองด้วย และพอไม่ได้กินนานๆ มันก็เลยไม่ชิน ก็เลยกินไม่ได้แล้ว แต่นานๆ กินที น่าจะปีละ 2 ครั้งมั้ง คือผมไม่ได้รู้สึกเอ็นจอยเท่าไหร่ มันแล้วแต่คนแหละ ผมกินแล้วรู้สึกผิดมากกว่า กินแล้วต้องไปวิ่งเลย”